ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯที่ The Crystal Grill House

ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ เอชียทีคเดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์

เดอะคริสตัลล์กริลล์เฮาส์ (The Crystal Grill House) ร้านอาหารและบาร์ที่รับรองว่ามาเห็นแล้วต้องร้องว้าว แบบ Sineha Bangkok กันทุกคนแน่นอน สวยและบรรยากาศดีสุด ๆ ที่ทำเป็นห้องกระจกแวววาวเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามเป็นประกาย ลืมภาพจำของกริลล์เฮาส์แบบเดิม ๆ ไปได้เลย

จากเรื่องราวที่ต่อยอดมาจาก เรือสิริมหรรณพ เรือใบสามเสาดัดแปลงใหม่ที่เคยล่องจากเมืองไทยไปยังทั่วโลกในช่วงต้นค.ศ. 1900 แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต การค้าที่รุ่งโรจน์ในยุคนั้น มีชาวต่างชาติเข้ามาทำการค้าขายในสยามประเทศเรามากมายหลายชาติ และ 5 ประเทศแรกที่เข้ามาคือ อเมริกา,อินเดีย, เปอร์เซีย, จีน และญี่ปุ่น

จึงกลายมาเป็นห้องรับประทานอาหารส่วนตัวแบบพาวิลเลียนกระจกที่หรูหราสวยงามห้าห้องที่ The Crystal Grill House ที่ถูกตั้งชื่อตามประเทศทั้งห้าได้แก่ ห้องอเมริกา 6 ที่นั่ง, ห้องอินเดีย 6 ที่นั่ง, ห้องเปอร์เซีย 4 ที่นั่ง, ห้องจีน 4 ที่นั่ง และห้องญี่ปุ่น 6 ที่นั่ง ส่วนตัว Sineha Bangkok ชอบห้องเปอร์เซีย กับ อินเดียที่สุด

จะบอกว่าคือดีมากได้ทั้งความเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกัน สามารถชมวิวที่สวยสะกดอย่างพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยาและมีเรือสิริมหรรณพเป็นแบ็กกราวน์ รับรองเลยว่าเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่ใคร ๆ ก็ต้องอยากมาแน่นอน ส่วนถ้าใครไม่จองห้อง หรือจองไม่ได้ หรือมาแค่คนเดียว 2 คน ก็มีเทอเรซกลางแจ้ง เคาน์เตอร์บาร์ ที่สามารถเลือกนั่งแบบสบายเป็นกันเองภายในครัวแบบเปิด ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจริง ๆ นั่งตรงไหนก็วิวสวยทุกมุม

ส่วนเมนูที่เสิร์ฟภายในห้องอาหารจะเน้นที่วัตถุดิบจากเนื้อวัวจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาโดยใช้ส่วนที่ดีที่สุดและอาหารทะเลสดนำเข้าชั้นเลิศ ปรุงตามสั่งผ่านกรรมวิธีจากเตาถ่าน “โจสเปอร์” (Josper Grill) ที่นำไม้หลากหลายมาเผาย่าง ซึ่งถ่านที่ได้จากการเผานี้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทำให้รสชาติของอาหารมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

ตามมาดูเมนูที่ Sineha Bangkok เอามาฝากกันได้ ซึ่งแต่ละเมนู ดูราคาเฉย ๆ อาจจะดูสูง แต่อย่าลืมว่า ที่ The Crystal Grill House เป็นร้านที่ค่อนข้างลักชัวรี่ ภายใต้การบริหารของโรงแรมห้าดาวอย่าง Bangkok Marriott Marquis Queens Park และยิ่งถ้าเทียบกับ วิว สถานที่ และขนาดจานที่มาเสิร์ฟ จะลืมคำว่าแพงไปเลยค่า

APPETIZERS แต่ละเมนูที่ลองเลือกมาคืออร่อยและมีคุณภาพจริง ๆ ทั้ง Hokkaido scallop crudo 580 บาท Scallop น้ำเข้าจากญี่ปุ่นที่ได้ความสดชื่นจากแตงโม และเผ็ดจากวาซาบิ, Hand-cut steak tartare, egg yolk jam 680 บาท, Grilled octopus 680 บาท หนวดปลาหมึกชิ้นโตไม่มีคำว่าเหนียวกวนใจ อร่อยลืมคลอเรสเตอรอลแน่นอน, Kataifi fried tiger prawns 460 บาท ที่มาในรูปแบบกุ้งโสร่งทานเพลิน ๆ

FROM THE JOSPER GRILL หรือเมนูกริลล์ไฮไลท์ของ The Crystal Grill House เราเลือกลองเนื้อ 2 เมนูตามคำแนะนำของพนักงาน คือ TENDERLOIN black angus ขนาด 200 กรัม 1,680 บาท และ WAGYU NY STRIPLOIN ขนาด 250 กรัม 2,690 บาท เนื้อชิ้นใหญ่มาก จากตอนแรกที่เห็นราคาว่าแพง แต่พอมาเสิร์ฟคือใหญ่กินคนเดียวไม่หมดแน่ เนื้อดีจริงแค่ตอนหั่นเนื้อ ใครเป็นสายเนื้อได้ลองหั่นก็รับรู้ถึงคุณภาพแล้ว

ส่วนคนไม่ทานเนื้อก็ต้อง CENTER CUT PORK CHOP 780 บาท หรือถ้ารักสุขภาพจ๋าก็ต้องเมนูปลาเท่านั้นอย่าง SALMON STEAK Tasmanian ขนาด 200 กรัม 680 บาท ปลา Grill ได้ดีจริง แห้งหนังกรอบกำลังดี แต่หั่นมาไม่ได้แห้งเนื้อมีความ Juicy น่าทาน พอร์คช็อปเนื้อนุ่มชิ้นโตเช่นกัน เรื่องน้ำจิ้มมีเสิร์ฟให้ 3 แบบแซ่บ เลือกแบบที่ใช่ ตามใจชอบได้เลย

เมนูหลัก หรือ Main เราเลือกลอง 1 เมนูคือ KING CRAB LINGUINE 780 บาท แล้วก็ไม่ผิดหวังจานนี้อร่อยมากกกกก Sineha Bangkok แนะนำว่าต้องสั่ง เส้นนุ่มกำลังดีไม่เหนียวไปหรือนิ่มไป ผัดตัวซอสได้เข้าเส้นดี ใครชอบแบบครีมมี่ เข้มข้นหน่อย ๆ King Crab เนื้อเด้งสด แนะนำเลยค่ารสชาติดีจริง ๆ ถ้าชอบแบบเผ็ดก็สามารถบอกพนักงานได้ด้วย

ส่วน Side Dish สั่งมาลอง 3 เมนู อร่อยทุกจานค่ะ Brocolinni 160 บาท, Charcoal roasted pumpkin 140 บาท และ Forest mushrooms 180 บาท ทานคู่กับเมนู Grill ทั้งหลายคือดี และครบรสมาก ทั้งเนื้อ ผักใบเขียว เห็ด และฟักทอง มี Side Dish รสชาติหลากหลาย ยิ่งเพิ่งรสชาติอาหารจานเนื้อยิ่งขึ้น