The Secret of พระนคร ตอน “พระนครสีเทา

KTC Press Club ชวนไปเที่ยว Sineha Bangkok ไปเที่ยวทีไร ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ น่าสนใจทุกครั้ง ทริปนี้มาในฉบับเรื่องลับของพื้นที่สีเทาย่านเก่าในพระนคร ที่ครั้งนี้นำเสนอในแนว Dark Tourism ที่บอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรม ของสถานภาพทางสังคมในมุมมืด ทั้งแหล่งบันเทิงเริงอารมณ์ของวิถีบุรุษ จุดหักเหของแหล่งค้าประเวณี ลานประหารของผู้กระทำความผิดด้วยการตัดศีรษะตามธรรมเนียมโบราณ และเรื่องราวเจ้าของกิจการโรงหวยที่รุ่งเรืองที่สุดในยุคนั้น  ที่บอกต่อกันมาผ่านเรื่องเล่า หลักฐานพงศาวดาร บุคคลในย่านเก่าของพื้นที่เยาวราชและพลับพลาไชย กลายเป็นเรื่องเทาๆ ชวนค้นหา โดยได้ อาจารย์นัท-ธานัท ภุมรัช นักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานพัฒนาการท่องเที่ยว ส่วนการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร มาช่วยให้ความรู้เล่าเรื่องราวต่าง ๆให้ฟังตลอดทั้งวันเลย

เริ่มที่วัดบำเพ็ญจีนพรต (วัดย่งฮกยี่) วัดมหายานจีนนิกายแห่งแรกของไทย เป็นวัดจีนเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในตรอกเต๊า (เยาวราชซอย 8) ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกทรงวินเทจ สร้างมาตั้งแต่บางกอกเพิ่งจะเป็นเมืองหลวงของไทยหมาด ๆ มีพระประธานทั้ง 3 พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระอมิตาภะพุทธเจ้า และพระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า กับพระอรหันต์ 18 องค์ ที่เป็นศิลปะ “ท๊กทอ ท๊กซา” ผ้าป่านอาบน้ำยาลงรักปิดทองที่มีแห่งเดียวในไทย มีพระอุโบสถมีขนาดเล็กที่แปลกมากเพราะสร้างอยู่ใจกลางอาคารที่มีคนอาศัย โดยทั้ง 4 ด้านจะถูกปิดล้อมด้วยตัวอาคารที่เล่ากันว่ามีคนได้ยินเสียงและพบเจอวิญญาณผู้หญิง!! ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเร้นลับกับความเฟื่องฟูของแหล่งธุรกิจโรงโคมย่านตรอกเต๊า “แหล่งโรงโคมเขียว-โคมแดงของบรรดาหญิงงามเมือง” ที่มีประวัติศาสตร์การค้าประเวณีที่ขึ้นชื่อว่าดีและดังย่านเยาวราช ในยุคสมัยหนึ่ง

แล้วไปชมสถาปัตยกรรม วัดกันมาตุยาราม ที่ ชมพระพุทธอริยกันต์มหามุนี พระประธานที่มีลักษณะโดดเด่นตามพระราชนิยมในรัชกาลที่ 4 และจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม แปลกตา วัดกันมาตุยารามเป็นวัดที่ “นางกลีบ” เจ้าสำนักโสเภณีชื่อดังสร้างขึ้นในพื้นที่สวนดอกไม้เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้ลูกชื่อนาย “กัณฑ์” ที่มีสุขภาพอ่อนแอให้หายป่วย แล้วได้น้อมเกล้าฯ ถวายวัดแด่รัชกาลที่ 4 พระองค์จึงพระราชทานนามว่า วัดกันมาตุยาราม  แปลว่า “วัดของมารดานายกัณฑ์” ชมปูชนียสถานสำคัญ เจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบลังกา สร้างเลียนแบบธัมเมกขสถูปในประเทศอินเดียที่มี เพียงสองแห่งในประเทศไทย  ภายในอุโบสถพบกับจิตรกรรมพุทธประวัติ กับซุ้มกรอบ ประดิษฐานพระพุทธรูป 37 ปาง และบานประตูหน้าด้านในเขียนรูปเนื้อสัตว์ที่ห้ามทางพระวินัยไม่ให้ภิกษุฉัน ด้านหลังเขียนรูปผลไม้ที่ใช้ทำน้ำปานะ

แวะกินมื้อเที่ยงที่ ร้านนายโซว กับอาหารจีนแต้จิ๋วรสมือรุ่นลายครามที่หากินยาก ร้านดังแห่งย่านถนนพลับพลาไชย ที่มีเมนูดังอย่าง ออส่วนกระทะร้อน ปลาต้มเผือก หรือ เผือกหิมะที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย อร่อยสมคำร่ำลือมาก ๆ

จากนั้นไปฟังเรื่องราวของโศกนาฏกรรมเรื่องรัก สู่หลักประหารที่วัดพลับพลาชัย (วัดโคก) โดยรัชกาลที่ 6 ทรงใช้วัดนี้เป็นสถานที่ตั้งพลับพลาในการซ้อมรบของกองเสือป่ารักษาดินแดง จึงพระราชทานนามว่า “วัดพลับพลาชัย” วัดพลับพลาชัยเป็นวัดโบราณสมัยอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์  แต่ไม่มีหลักฐานบันทึกแน่ชัด วัดพลัพลาชัยเคยเป็นลานประหารตัดหัวนักโทษ ซึ่งสถานที่ประหารต้องห่างไกลจากชุมชน แต่การประหารทุกครั้งก็จะมีชาวสยามตามไปมุงดูแบบคึกคัก เมื่อมีชุมชนเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น จึงขยับลานประหารไปวัดมักกะสัน และถอยออกไปไกลถึงวัดบางปลากดอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

ตามรอยมาต่อกันที่ วัดคณิกาผล (วัดใหม่ยายแฟง) ที่นำเงินจากการประกอบอาชีพแม่เล้าโรงโคมเขียว มาสร้างวัดถวายเป็นพุทธบูชา ที่สืบทอดความศรัทธาต่อเนื่องมากว่าร้อยปี วัดคณิกาผล เป็นวัดสมัยรัชกาลที่ 3 สร้างโดย “ยายแฟง” เจ้าสำนักโสเภณีแห่งย่านตรอกเต๊า ผู้มีชื่อเสียงและมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ความร่ำรวยของยายแฟงมาจากเงินของหญิงบริการ อาชีพที่ไม่ได้รับการยอมรับในสังคม แม้สมเด็จพระพุฒาจารย์โต หรือหลวงปู่โตแห่งวัดระฆังยังเทศน์ในงานสมโภชวัดว่า “เจ้าภาพทำบุญด้วยทุนรอนจากผลเช่นนี้ จึงได้อานิสงส์เพียงสลึงเฟื้องของเศษบุญเท่านั้น” ภายในวัดมี พระประธานหลวงพ่อทองคำสมัยสุโขทัยที่งดงาม พระพุทธรูปบำเพ็ญทุกรกิริยา รวมถึง “อาคารยายแฟง” ตั้งรูปหล่อของคุณยายแฟงต้นตระกูลเปาโรหิตย์ ที่ผู้คนมักมาขอพรเรื่องโชคลาภ เรื่องงาน เรื่องเงิน โดยเฉพาะเรื่องความรัก

และปิดท้ายให้สายมูที่ชอบขอเลขเด็ดที่ ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง ที่เลื่องชื่อในเรื่องการให้หวย ที่อาจมีใครดวงดีปุ๊บปั๊บรับโชคจับเงินล้าน ยี่กอฮง หรือ พระอนุวัตรราชนิยม”(ฮง เตชะวณิช) เคยเป็นเสมียนโรงบ่อนเบี้ย และประกอบกิจการค้าหลายอย่าง แต่ที่สร้างฐานะให้คือการเป็นเจ้าภาษีโรงต้มกลั่นสุรา โรงบ่อนเบี้ย และโรงหวย เมื่อการทำธุรกิจบ่อนโรงหวยเฟื่องฟู ก็ไม่ลืมที่จะสร้างคุณงามความดีในการสร้างถนน สะพาน มูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง คืนกลับให้สังคม ไม่เว้นว่าจะเป็นในประเทศไทศ หรือชาวจีนโพ้นทะเลที่ข้ามน้ำมาประเทศไทยแล้วลำบากมาขอพึ่งพาบารมี ก็ได้รับการช่วยเหลือ จนได้รับสมญานามว่า ยี่กอฮง สถานีตำรวจพลับพลาไชยในปัจจุบัน คือบ้านเดิมของท่านยี่กอฮง และต่อมาได้สร้างศาลของท่านขึ้นไว้บนชั้นดาดฟ้า ที่คนมากราบไหว้ขอโชคลาภ หรือขอหวยมากมาย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนก็เดินมางมากรายไหว้ขอพรกันไม่เคยขาดเลย ส่วนใครมาไหว้ขอพรแล้ว จะทำบุญโรงศพที่ปอเต็กตึ๊งข้าง ๆ ต่อก็ครบถ้วนดี

ขอบคุณ KTC Press Club กับOn Day Trip ดี ๆ ให้ความรู้ทุกครั้งที่ไปเที่ยว มารอลุ้นกันต่อว่าครั้งหน้า KTC จะชวนไปเที่ยวไหนอีกนะ ส่วนคนที่อยากรู้ว่าคราวที่แล้ว KTC พา Sineha Bangkok ไปเที่ยวที่ไหนเช็กได้ที่ https://sinehabangkok.com/travel/travel-thailand/the-secret-of-phranakhon/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.