ห้องอาหารไทยที่การันตีด้วยมิชลินไกด์ติดต่อกันมากว่า 5 ปี
เมื่อ ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” (Celadon Restaurant) ณ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ (The Sukhothai Bangkok) กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง Sineha Bangkok ไม่รอช้าขอมาลองเปิดประสบการณ์อาหารที่เลื่องชื่อในการนำเสนออาหารไทยรสชาติดั้งเดิมด้วยคน
เพราะเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแล้วว่า ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” เสิร์ฟอาหารไทยแท้ต้นตำรับแบบดั้งเดิม รสชาติจัดจ้านที่หาทานยาก การันตีด้วยรางวัลหลากหลายรวมถึงมิชลินไกด์ติดต่อกันกว่า 5 ปี ที่ดูแลโดย เชฟรสริน ศรีประทุม หรือเชฟรินเป็นเชฟประจำ ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” โดยเชฟรินรับหน้าที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาสูตรอาหาร และเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากแหล่งวัตถุดิบปลอดสารพิษ ด้วยประสบการณ์การทำอาหารกว่า 20 ปี
ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีของ Sineha Bangkok ไปโดยปริยาย เพราะครั้งนี้ที่มาลองชิมอาหารที่ ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” เป็นจังหวะเดียวกับที่ทางเชฟรินเปิดตัวเมนูอาหารใหม่พอดี เมนูที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติจัดจ้าน ตามตำรับไทยแท้ และคงรสชาติต้นตำรับ ครบทั้งเมนูคาวหวานและเมนูอาหารว่าง อาหารจานหลักและขนมหวานตลอดมื้อค่ำ ที่เปิดให้บริการเฉพาะวันพฤหัสบดี ศุกร์ และ เสาร์ เท่านั้น ! พร้อมการแสดงโชว์รำช่วง 19.30 และ 20.30 น อีกด้วย
Sineha Bangkok ชอบในบรรยากาศร้านมาก ชอบแบบ Love at first sight เลยนะ เริ่มตั้งแต่ ร้านแยกออกมาอยู่หน้าก่อนเข้าล็อบบี้โรงแรม คือขับรถเข้ามาในโรงแรมเห็นร้านก่อนเลย ศาลาทรงไทยเรือนกระจกที่รายล้อมด้วยสระบัวบานสะพรั่ง คือข้างนอกก็สวย ยิ่งเข้าไปนั่งข้างในยิ่งสบายตาเพราะเป็นเรือนกระจกเห็นสระน้ำดอกบัวเพลินตามาก
เข้ามาในร้านนั่งโต๊ะแล้วพนักงานก็จะเสิร์ฟ welcome drink ที่เป็นน้ำสมุนไพร ก่อนแนะนำเมนูและรับออร์เดอ ซึ่งเราสามารถเลือกทานเป็นเป็น A la carte หรือแบบ Tasing Menu ที่มีให้เลือก ทั้งแบบ Full Experience (8 Courses) ในราคา 2,600++ บาทต่อคน หรือแบบ Part of the Trail (6 Courses) ในราคา 2,400++ บาทต่อคน ส่วนใครอยากจะ Wine pairing ด้วยก็เพิ่มอีก 1,900++ บาทต่อคน สำหรับ 5 แก้ว
ซึ่งครั้งนี้ Sineha Bangkok อยากจะลองไปซะทุกอย่างแต่ไม่สามารถชิมได้หมดในครั้งเดียวแน่นอน ครั้งนี้เราเลยเลือกลองเมนู a la carte บางเมนูและ Tasting Menu set Part of the Trail (6 Courses)
Tasting Menu –Part of the Trail (6 Courses) เริ่มที่ หนังไก่ทอดกรอบน้ำพริกข่า, พล่าปลาทรายมังคุดคัด, ต้มแซ่บหอยเชลล์ใบชะมวง, กุ้งแม่น้ำสามสายย่างไม้โมก, แกงสิงหลแก้มวัว และของหวานปิดท้ายด้วยกระเจี๊ยบดอกจอกกับไอติมลูกตาลสด
เป็น Set ที่กำลังดีเลยนะ ไม่น้อยและไม่เยอะเกินไป รสชาติจัดจ้านตั้งแต่เมนูแรก และเริ่มต้นด้วยคำเล็กจานแรกแล้วค่อย ๆ ไล่ไซส์ขึ้นมาเรื่อยมาจบคาวที่กุ้งแม่น้ำย่างไซส์ใหญ่เสิร์ฟพร้อมข้าว ที่อิ่มแน่นอนก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานหาทานยากอย่างกระเจี๊ยบดอกจอกและไอศกรีมลูกตาล
ส่วนเมนู a la carte ที่ Sineha Bangkok ลองครั้งนี้ตามมาดูกันว่าสั่งอะไรมาลอง และเอารูปเมนูไหนมาฝากกันบ้าง
ข้าวเกรียบปากหม้อโบราณ 550 บาท
เป็นซิกเนเจอร์เมนูที่ใคร ๆ ก็แนะนำ ที่รู้ว่าจะมากิน ก็บอกอย่าลืมสั่งเมนูนี้มาลองนะ มาถึง ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” พนักงานก็แนะนำเป็นเมนูแรกเลย จะไม่สั่งได้ยังไง ^^ ข้าวเกรียบปากหม้อโบราณจะมีน้ำแบบในรูปเลย ตัวใหญ่กว่าข้าวเกรียบปากหม้อทั่วไป กินกับน้ำซอสเข้ากันดี ก้อนปูที่โรยมาใหญ่เต็มคำดี สรุปว่าอร่อยสมกับที่ทุกคนแนะนำ
ทอดมันกุ้งแชบ๊วยปากน้ำกระบี่ 550 บาท
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนู ที่พนักงานแนะนำ เสิร์ฟมาในแบบเสียบไม้สไตล์ลูกชิ้นเลย แต่เป็นทอดมันกุ้งที่เนื้อแน่นดีเลยอ่ะ กุ้งเต็มคำมากค่ะ อร่อยแนะนำ
ยำส้มโอขาวใหญ่อัมพวากุ้งย่าง 520 บาท
เป็นยำส้มโอที่รสชาติจัดจ้านอยู่นะ แต่ต้องคลุกเคล้าซอสที่ซ่อนอยู่ใต้กุ้งให้ทั่วถึง แล้วถึงจะพบความแซ่บของเชฟ หรือถ้าไม่คลุกก็กินไต่ระดับความแซ่บไปทีละชั้นได้เหมือนกัน
ต้มจืดเงาะใบชะคราม 420 บาท
เมนูนี้ สารภาพว่าเพิ่งเคยได้ยินชื่อและลองครั้งแรก ไม่คิดว่าจะเอาเงาะมาทำอาหารคาว และอร่อยด้วย เชฟบอกว่าเงาะหวาน ส่วนใบชะครามมีรสเค็มพอมาอยู่ด้วยกันแล้วลงตัวก็เป็นอย่างที่เชฟว่าจริง ๆ แนะนำว่าห้ามพลาดค่ะเมนูนี้ไม่น่าจะมีที่ไหนด้วย
แกงมัสมั่นเนื้อแกะผลสละ 780 บาท
เนื้อแกะดีนุ่ม รสชาติแกงมัสมั่นไม่เผ็ดโดดแต่กลมกล่อมและเข้มข้นเลยนะ มีเนื้อผลสละช่วยชูรสชาติขึ้นด้วยได้ความหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ เพิ่มเข้ามาทำให้รสชาติมัสมั่นแปลกไปกว่าที่เคย
ข้าวเม่าทอดไอติมกะทิ 420 บาท
ข้าวเม่านี่ถ้าไม่ไปแผงกล้วยทอดเราไม่มีทางได้กินบนโต๊ะอาหารที่ไหนแน่ ๆ เชฟเข้าใจคิดมาก และทอดได้ดีเลย ขนาดเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมก็ยังกรอบนอกนุ่มข้างในตัวกล้วยเลย ชอบมาก
ขนมถั่วแปบมะพร้าวอ่อน 420 บาท
เป็นขนมไทยช่างประยุกต์มากค่ะ เชฟช่างสร้างสรรค์จริง ๆ ทำออกมาได้ดีด้วยหอมมะพร้าวดี
เล่าให้ฟังขนาดนี้ ต้องมาลองเองแล้ว ^^ ร้านอาหารไทย สวยรูปจูบหอม ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยทั้งร้อยยังไงมาแล้วก็ตกหลุมรักแน่ ๆ คนไทยอย่างเรา ๆ ยิ่งไม่ควรพลาดเลยนะคะ
ห้องอาหารไทย “ศิลาดล” (Celadon Restaurant)
โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ (The Sukhothai Bangkok) ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำในช่วงเวลา 18.00 – 23.00 น
สำรองที่นั่ง 02 344 8888
email : promotions@sukhothai.com