Blue by Alain Ducasse เปิดตัว Bespoke Afternoon Tea

มาเปิดประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่าย ในร้านระดับมิชลินกัน

Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เปิดตัวชุดน้ำชายามบ่าย Bespoke Afternoon Tea เป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2566 รังสรรค์อย่างประณีตโดยเชฟเลื่องชื่อ เสิร์ฟภายใน Blue Lounge ที่เพิ่งได้รับการปรับโฉมใหม่เพื่อสร้างบรรยากาศที่ลงตัวระหว่างความเรียบหรูและความเป็นส่วนตัว Sineha Bangkok ขอมาเปิดประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่ายในร้านระดับมิชลินด้วยคน

Bespoke Afternoon Tea หรือชุดน้ำชายามบ่าย ของร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เปิดตัวในราคา 1,500 บาท++ ต่อท่าน ซึ่งถ้าถาม Sineha Bangkok ที่ได้มีโอกาสไปลิ้มลอง Afternoon tea มาหลายที่โดยเฉพาะโรงแรมห้าดาว ถือว่าที่นี่เปิดตัวราคาไม่แรงเลย ทั้ง ๆ ที่ร้าน Blue by Alain Ducasse มีตำแหน่งมิชลินห้อยท้ายอยู่ด้วย ที่นี้ตามมาดูกันว่า ในเซ็ตมีอะไรมาเสิร์ฟบ้าง

เมื่อเราได้ที่นั่ง ที่โทรจองล่วงหน้า ซึ่ง Sineha Bangkok แนะนำให้โทรจองก่อนมาใช้บริการนะทุกคน พนักงานจะเอาเมนูเครื่องดื่มมาให้เราเลือกก่อนว่าจะรับชา กาแฟ หรือ ช็อกโกแลต ระหว่างรอเครื่องดื่มที่เราเลือก จะมี Welcome drink มาเสิร์ฟก่อนให้ชื่นใจ ซึ่งคือน้ำผลไม้ ที่เราได้จะเป็นน้ำกีวี่ สดชื่นมาก ครั้งนี้เราเลือกกาแฟ แทนชา เพราะความชอบส่วนตัว แต่ก็อยากลองช็อกโกแลตร้อนด้วนเพราะ Signature Hot Chocolate ของ Blue by Alain Ducasse ขึ้นชื่อมาก ไม่ลองไม่ได้เลย ก็สั่งเพิ่มสิ ^^ (ราคา 250 บาท++) เข้มข้นถูกใจจริง ๆ

จากนั้นพนักงานจะทยอยนำขนมทั้งของคาวและของหวานแต่ละชิ้นมาเสิร์ฟ Bespoke Afternoon Tea ของร้าน Blue by Alain Ducasse รังสรรค์โดย เอ็กเซกคิวทีฟเชฟ วิลฟริด ฮ็อคเกต พร้อมด้วย เอ็กเซกคิวทีฟเพสตรี้เชฟ คริสตอฟ กรีโล โดยการปรับมุมมองของการดื่มน้ำชายามบ่ายแบบดั้งเดิม และเพิ่มสีสันให้แก่ของว่างทั้งคาวและหวาน โดยยึดหลักและมุมมองของเชฟอลัง ดูคาสในการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีเยี่ยมเสมอ

ของว่างแบบคาวอร่อยทุกคำเลย Sineha Bangkok ติดใจตั้งแต่คำแรก แซลมอนรมควันและส้มโอ ซึ่งทำจากแผ่นแป้ง feuille de brick สอดไส้ด้วยชั้นแซลมอนรมควันสลับกับครีมแซลมอนรมควันและส้มโอ หรือ ไข่ย่างแบบญี่ปุ่น (tamago) กับคาเวียร์ Cristal ที่เสิร์ฟพร้อมมายองเนสและดอกดาวเรือง มี เทอร์รีนเป็ดและซาวโดห์ ซึ่งทำจากขนมปังซาวโดห์ของทางร้าน สอดไส้ด้วยชั้นตับไก่บดปรุงรสด้วยไวน์มาเดรา แล้วเคลือบด้วยน้ำซอสจากเนื้อหมูก่อนแต่งหน้าด้วยพรุน ใบมัสตาร์ด และเมล็ดมัสตาร์ดกับเมล็ดทานตะวัน

ส่วนของว่างแบบหวาน ที่ขาดไม่ได้เลยคือสโคนทั้งแบบดั้งเดิมและแบบมีลูกเกด เสิร์ฟพร้อมสตรอเบอรี่มาร์มาเลดและคล็อตเต็ดครีม พร้อมด้วยของว่างแบบหวานอื่นๆ ที่เน้นใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล อาทิ โพเลนตาสับปะรดที่มาพร้อมคัสตาร์ดคาราเมลและสับปะรดย่าง, ทาร์ตเล็ตใบไธม์พร้อมพีชย่าง และขนมอบแบบฝรั่งเศสประจำวัน (Vienoisserie Du Jour)

ปิดท้ายด้วยรถเข็นของหวานที่พนักงานของทางร้านจะเข็นมาให้ลูกค้าได้เลือกลิ้มลองตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานแบบฝรั่งเศสอย่าง ซาวาแรงรัม (Rum Savarin) ซึ่งตัวนนี้เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน Blue by Alain Ducasse ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เค้กสตรอเบอรี่แบบฝรั่งเศส (Fraisier) ทาร์ตเลมอนและของเซอร์ไพร์สตบท้ายรับเป็นกล่องกลับบ้านด้วยบิสกิตนานาชนิด และชอคโกแลต ให้เราประทับใจกับการจิบน้ำชายามบ่ายที่นี่สุด ๆ

บลูเลาจน์ (Blue Lounge) เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ช่วงเวลาเที่ยงจนถึงสี่ทุ่ม สำหรับแขกที่ต้องการมาแวะพักทานขนมหรือเครื่องดื่มนานาชนิด ชุดน้ำชายามบ่ายมีให้บริการทุกวันในช่วงเวลาบ่ายสองโมงเป็นต้นไปจนถึงห้าโมงเย็น พร้อมบริการเสิร์ฟในห้องไพรเวทรูมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา PINK และ BRONZE สำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มสังสรรค์ตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป

Blue Lounge โซนด้านหน้าร้าน Blue by Alain Ducasse ชั้น 1 Iconsiam (โซนริมแม่น้ำ)

ส่วนใครยังไม่เคยเปิดประสบการณ์อาหารระดับมิชลิน 1 ดาว ที่ร้าน Blue by Alain Ducasse แนะนำให้ลองดูรีวิวที่ Sineha Bangkok เคยรีวิวไว้ก่อนได้ว่าน่าลิ้มลองขนาดไหนก่อนตัดสินใจโทรจองที่ลิงค์นี้ได้เลย

ชวนลิ้มลอง Seasonal Set Lunch เมนูที่ Blue by Alain Ducasse

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.