พักผ่อนริมเจ้าพระยา ณ Praya Palazzo

คฤหาสน์เก่ากลางกรุงที่เสิร์ฟประสบการณ์สุดประทับใจ

ใครที่กำลังมองหาที่พักผ่อนในกรุงเทพฯ ที่ให้ทั้งความสงบ ความรื่นรมย์ และกลิ่นอายอดีตที่จับต้องได้จริง ๆ Sineha Bangkok ขอแนะนำ Praya Palazzo โรงแรมบูติกริมเจ้าพระยาที่เพิ่งมีโอกาสได้ไปใช้เวลาหนึ่งคืนเต็ม พร้อมร่วมกิจกรรม Wine Pairing Experience สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เพราะไม่ได้เน้นอาหารแบบจัดหนัก แต่เน้นความละเมียดละไมในทุกคำที่เสิร์ฟ พร้อมไวน์ไทยคุณภาพเยี่ยมจาก GranMonte

คฤหาสน์กลางน้ำที่พาคุณย้อนเวลากลับไปเกือบร้อยปี

Praya Palazzo เดิมคือคฤหาสน์ บ้านบางยี่ขัน ของ พระยาจอลลภูมิพานิช ขุนนางสายเลือดจีนผู้มีบทบาทในสมัยรัชกาลที่ 5 – 6 ตัวอาคารเป็นสไตล์พาลาดิโอแบบอิตาเลียน ผสานกับการวางผังบ้านไทยที่มีสวนอยู่ตรงกลาง ความพิเศษคือที่นี่ไม่มีถนนเข้าถึง ต้องนั่งเรือเท่านั้น ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบยังคงเงียบสงบและงดงามเหมือนหลุดออกมาจากยุคอดีต ตัวโรงแรมได้รับการบูรณะอย่างประณีตจนกลับมาสง่างามอีกครั้ง และกลายเป็นที่พักแบบบูติกขนาด 15 ห้อง ที่มีทั้งความเป็นส่วนตัวและความคลาสสิกอย่างลงตัว

การเข้าพักที่เริ่มต้นจากเสียงน้ำและแสงไฟริมน้ำ

เราเริ่มต้นทริปด้วยการลงเรือที่ท่าพระอาทิตย์ตอนเย็น เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงแรม ฝั่งตรงข้ามเป็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ขณะที่ตัวโรงแรมค่อย ๆ ปรากฏเป็นเงาสีขาวนวลท่ามกลางแมกไม้ ดูขลังและสงบในเวลาเดียวกัน เมื่อเช็กอินและเดินเข้าสู่โถงกลาง รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในบ้านเก่าของขุนนางผู้ดี ด้านในตกแต่งแบบไทยผสมยุโรป เงียบ เย็น และมีเสน่ห์ชวนหลงใหล

ห้องพักเรียบง่ายแต่มีรายละเอียดที่อบอุ่น

ห้องที่เราได้พักอยู่ชั้นสอง มองออกไปเห็นวิวแม่น้ำชัดเจน ผนังสีขาว ตู้ไม้คลาสสิก เตียงนุ่มกำลังดี พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทันทีที่เข้ามา ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำทรงคลาสสิก และอุปกรณ์ครบครัน ยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเจ้าบ้านนายย้อนยุคมากกว่า “โรงแรม”

Wine Pairing Experience ที่เสิร์ฟแบบคำต่อคำ

ไฮไลต์ของค่ำคืนนั้นคือ Wine Pairing Experience ที่จัดขึ้นในเย็นวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 17:30–21:30 น. โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,490++ บาทต่อคน บรรยากาศริมแม่น้ำถูกเนรมิตให้เป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียน พร้อมเสียงดนตรีและเสียงร้องเพลงอันเราะของนักร้องที่ขับกล่อมบทเพลงได้บรรยากาศ รายล้อมไปด้วยแสงจากตะเกียงแบบย้อนยุค อาหารที่เสิร์ฟเป็นแบบ 5 Course ไม่ใหญ่ ไม่หนักมาก โดยเน้นความสร้างสรรค์ของอาหารไทยสมัยใหม่ ที่หยิบยกวัตถุดิบไทยมานำเสนอใหม่อย่างประณีต

ไวน์ทุกแก้วที่เสิร์ฟแพริ่งมาจาก GranMonte ไร่องุ่นคุณภาพจากเขาใหญ่ ซึ่งแต่ละตัวเลือกมาจับคู่กับอาหารโดยซอมเมอลิเยร์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ทุกคำ ทุกจิบ รู้สึกมีเรื่องราว ไม่ใช่แค่กินเพื่ออิ่ม

เช้าวันรุ่งขึ้น กับความสุขเรียบง่ายในสวน

อาหารเช้าของ Praya Palazzo ไม่จัดเต็มแบบบุฟเฟต์โรงแรมทั่วไป แต่มีความอบอุ่นเหมือนกินข้าวที่บ้าน เช่น ข้าวต้มหมูร้อน ๆ ไข่กระทะ ชาไทยร้อน และผลไม้สดตามฤดูกาล เสิร์ฟในสวนใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมเสียงนกและลมเย็น ๆ จากแม่น้ำ เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่าได้ “พักจริง ๆ” ก่อนจะเช็กเอ้าท์ เราก็ได้ลองอาหารเที่ยงของห้องอาหารไทยสวยงามอย่าง Praya Dining ที่มีเมนูแนะนำจากมิชลินไกด์ด้วย อาหารมีทั้งแบบเป็นเซ็ตและแบบ a-la-carte ให้เลือก และ Sineha Bangkok เลือกมาพักจังหวะดี มีข้าวแช่ด้วย เลยได้โอกาสลิ้มรสข้าวแช่ ที่เสิร์ฟเฉพาะฤดูร้อนนี้ด้วยเลย เครื่องครบครันพิถีพิถันจากเชฟโจ ผู้ดูแลห้องอาหารนี้ด้วย

ความประทับใจที่ได้มาพักสร้างความทรงจำที่ดี

Praya Palazzo คือที่พักสำหรับคนที่อยากใช้เวลาช้า ๆ กับตัวเองหรือกับคนพิเศษ สัมผัสความงามของสถาปัตยกรรมเก่า อาหารไทยในรูปแบบใหม่ และประสบการณ์การเข้าพักที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ ที่น่าประทับใจ ถ้าใครอยากพักผ่อนในแบบที่ไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯ ลองมองหา Praya Palazzo ไว้ในลิสต์ รับรองว่าคุณจะได้มากกว่าแค่การนอนพัก แต่จะได้ “เรื่องเล่า” ติดตัวกลับไปด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.