ในที่สุดก็ได้มีโอกาสมาลิ้มลองอาหารและค็อกเทลที่ร้าน EAT ME ร้านอาหารที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 2010 ในละแวกซอยคอนแวนต์ ถนนสีลม ที่ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมถึงอยู่มาได้นานขนาดนี้ ก็มีรางวัลการันตีมากมาย ทั้ง Asia’s 50 Best Restaurants หรืออยู่ในลิสต์ แนะนำ ของมิชลิน ไกด์บุ๊ค 2 ปีซ้อน และยังได้รับรางวัล Best Restaurant and Bar 2018 จาก Bar Awards Bangkok อีกด้วย
EAT ME ที่ปัจจุบันดูแลโดยเชฟใหญ่ Tim Butler ที่ช่างสร้างสรรค์และเสาะหาวัตถุดิบดีๆมาปรุงแต่งเมนูหลากหลายสัญชาติ และเชฟทิมได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่ทำให้เรายังครองตำแหน่งของร้านไว้ได้นั้น นอกจากรสชาติอาหารที่ดีแล้ว คงเป็นเพราะบรรยากาศร้านที่เป็นเสน่ห์ของเรา ถึงคุณจะแวะมาทานอาหารแพงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรู เพราะสิ่งสำคัญของร้านอาหารคือคนทานต้องเข้าถึงอาหารของคุณได้” ซึ่งพอก้าวเข้ามาในร้านก็เห็นด้วยกับคำพูดเชฟทิมจริงๆ ร้านบรรยากาศดีจริงๆ สวย แต่แอบเท่และรู้สึกผ่อนคลายในขณะเดียวกัน คงเพราะใช้ต้นไม้ในการตกแต่งสถานที่เยอะเลยในส่วนของเอ้าท์ดอร์ แม้ร้านจะไม่ใหญ่มากแต่ก็ดูไม่อึดอัดเลย พอเข้าไปโซนข้างในไปจนถึงชั้นสองจะเป็นแนวสลัวๆ ลงมาหน่อย ชั้นสองก็มีให้เลือกทั้งโซนแอร์ หรือโซนเอ้าท์ดอร์เช่นกัน ร้าน EAT ME ออกแบบตกแต่งใหม่โดย ดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกัน เคลลี่ วีทท์ลี (Kelly Wheatly) ได้อย่างลงตัว และอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ร้านดูมีลูกเล่นอยู่ตลอดเวลา คือจะมีภาพงานศิลปะที่แขวนอยู่ตามผนังห้องอาหารที่ผลัดเปลี่ยนไปทุก 3 เดือนจาก H Gallery ที่ทำให้มุมมองในร้านไม่จำเจอีกด้วย นอกจากนี้ที่ผลงานภาพศิลปะที่โชว์ยังสามารถซื้อได้เช่นกัน
มัวแต่บรรยายบรรยากาศร้านแต่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องของบริการ คือประทับใจกันตั้งเดินเข้าร้านจนสั่งอาหาร แนะนำเมนู แนะนำวิธีทาน ทุกๆเรื่องจริงๆ บริการให้คะแนนเต็มสิบได้เลย วันนี้เราได้เมนูแนะนำจากพนักงานอะไรบ้างตามมาดูกัน
LAAB-MOO (390฿+) ค็อกเทล ใช่แล้วมันคือ ค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมากจาก “ลาบหมู” แก้วนี้ถือเป็นแก้วที่ควรลอง เพราะมิกโซโลจิสต์ เอาอาหารไทยมาตีความใหม่ เสนอในรูปแบบเครื่องดื่ม โดยเอา Vodka มาผสมกับความเปรี้ยวหวาน เพิ่มความหอมแบบลาบโดยใช้หอมแดง สะระแหน่ และผักชี แล้วแต่งขอบแก้วด้วยข้าวคั่วหอมๆ ให้ความรู้สึกกรุบๆ เวลาจิบ สลับกับการกัดแฮมกรอบๆ ที่แล่มาเป็นแผ่นบางได้ทั้งรสหวานเค็ม ครบรสชาติของลาบหมูจริงๆ
ขนมปัง Complimentary ที่เสิร์ฟทุกโต๊ะเรียกน้ำย่อยกันหน่อย ขนมปัง กรอบนุ่ม ที่เสิร์ฟมาพร้อม Olive Oil คุณภาพดีไว้ให้จิ้มคู่กับถั่วบด เข้ากันดี
WHITE ASPARAGUS + CAVIAR จานนี้รวมสุดยอดวัตถุดิบไว้หลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น หน่อไม้ฝรั่งขาวที่ปลูกแบบพยายามไม่ให้หน่อโดนแสงแดด เนื้อจึงนุ่มและอ่อนกว่าหน่อไม้ฝรั่งปกติทั่วไปที่นำไปต้มจนนิ่มแต่ไม่เละเสิร์ฟมาพร้อมกับ ไข่ปลาคาเวียร์, ชีสแมนเชโก้ (Manchego Cheese), แฮมฮามอน อิเบอริโค (Jamon Iberico), และซอสจากหญ้าฝรั่น (Saffron) ที่เราขอแนะนำให้ทานทุกอย่างในคำเดียวพร้อมกัน… มันดีงามจริงๆ
CARABINERO PRAWN RISOTTO ริซอตโต้จานนี้อร่อยมาก ตัวข้าวสุกกำลังดีคลุกเคล้ากับ ซอสจากหญ้าฝรั่น(Saffron) กับ พริกชี้ฟ้า(Capsicum) ทำให้รสชาติเข้มข้น ทานเข้ากันกับกุ้งแดงคาราบิเนโร่จากสเปน ที่เนื้อจะมีความนุ่มหนึบและหวานเป็นเอกลักษณ์, ไส้กรอกโชรีโซ (Chorizo) และหอยเนื้อหวานไม่มีกลิ่นคาวเลย
GRILLED IBERICO PORK PLUMA จานนี้เถียงกับพนักงานตั้งนาน เพราะเราไม่กินดิบเลยจะสั่ง well done หรือแบบสุกจัด แต่พนักงานบอกว่า เชฟแนะนำให้ทานในแบบระดับ medium rare ซึ่งจะไม่มีเลือดมาให้เกะกะในการทานเลย แม้จะเป็น medium rare ก็เถอะ ก็ยังได้เนื้อสัมผัสนุ่มหวานของเนื้อหมูนำเข้าจากสเปนที่ปรุงรสด้วยซอสชิมิชูรี (Chimichurri) ติดเผ็ดปลายๆ แกล้มด้วยกระเทียมต้น (Leek) เนื้อนุ่มๆ และถั่วเฮเซลนัต (hazelnut) หอมมัน ลงตัวจริงๆ
GRILLED ABALONE + PLANKTON RICE หอยเป๋าฮื้อชิ้นหนาเนื้อเต็มๆ หวานนุ่มหอมดีมากๆ ไม่เหนียวเลย วางมาบนท็อปของข้าวนุ่มๆ แบบรีซอตโต้ผัดกับแพลงตอน ตัดเลี่ยนด้วยเลมอน เพิ่มความเปรี้ยวเล็กน้อย เมนูนี้ก็ถูกใจมากจนไม่รู้จะให้คะแนนจานไหนก่อนเลย
STICKY DATE PUDDING พุดดิ้งเนื้อหนึบ ที่อารมณ์คล้ายเค้กกล้วยหอม และราดซอส Hot butterscotch ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา เข้ากันสุดๆ
Flourless Dark Chocolate Cake เนื้อเค้กแน่นและเข้มข้นมากๆถูกใจคนรักช็อคโกแล็ตแน่นอน ใครที่ชอบกินเค้กช็อกโกแล็ตแบบเข้มข้นมาก แนะนำให้เมนูนี้เลย รับรองติดใจแน่นอน
สำรองที่นั่ง ติดต่อ 02 238 0931 หรือ อีเมล์ info@eatmerestaurant.comwww.facebook.com/pg/eatmerestaurant/ www.eatmerestaurant.com
