ร้านอาหารอินเดีย MICHELIN 1 ดาว กับการเดินทางรสชาติที่ไม่เหมือนใคร

ถ้าพูดถึงร้านอาหารอินเดียระดับ MICHELIN Star ในกรุงเทพฯ หนึ่งในชื่อที่ทุกคนต้องคิดถึงคือ INDDEE ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมนูใหม่ในบทที่สามของการเดินทางรสชาติ หลังจากใช้เวลาหกเดือนในการพัฒนาสูตรและปรับปรุงทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุงจนถึงการจัดจาน ที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน

Sineha Bangkok มีโอกาสได้ไปลองเมนูใหม่ล่าสุดของ INDDEE และต้องบอกเลยว่าประสบการณ์ทุกครั้งที่ได้มาทานมันทำให้เรารู้สึกพิเศษทุกครั้ง บอกได้เลยว่าเป๊ะสมความเป็นร้านมิชลิน 1 ดาว เมนูใหม่ของ INDDEE ชวนเราท่องเที่ยวอินเดียผ่านรสชาติอาหารจากภูมิภาคต่าง ๆ เราลองแบบเมนู 10-Destination Journey ราคา 4,900 บาท ++ และยังมีแบบ 10-Destination Vegetable Journey ราคา 4,200 บาท ++ และ 8-Destination Journey ราคา 4,200 บาท ++ ให้เลือกด้วย แต่ละคอร์สมีเรื่องราวและการตีความอาหารแบบดั้งเดิมใหม่ให้ร่วมสมัย



ก่อนจะเริ่มคอร์ส จะมี Open Bites 5 คำมาเสิร์ฟเปิดต่อมรับรสกันก่อน แล้วเริ่มต้นการเดินทางด้วย Parsi Love Affair ไข่ข้นแบบปาร์ซีย์ที่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากรัฐ Gujarat ทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย ต่อด้วย Himalayan Winter ให้อารมณ์เหมือนกิน ซุปเกี๊ยวร้อน ๆ ซึ่งผสมผสานรสเผ็ดเล็ก ๆ ของพริกไทยและเนยกับความหวานฉ่ำของปูฮอกไกโดอย่างลงตัว เมนูนี้ฉายกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานจากเชฟที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมานาน


‘When the Portuguese Came’ พาไปรัฐ Goa เสิร์ฟกุ้งย่าง ที่สุกกำลังดี ขึ้นมาที่ Mumbai เชฟเสิร์ฟจานเด็ด ‘Odd One Out’ ที่ เชฟใช้เนื้อปูยักษ์ฮอกไกโด และตอนเสิร์ฟจะมาเบิร์นไฟให้ซอสละลายจนซอสเคลือบทั่วเนื้อปู อร่อยถูกใจมาก


มาถึงเมือง Kolkata กับ‘Queen of Pickles’ เมนูปลาหิมะ และเลือกเมนู ‘Bread Intermission’ ขนมปังอินเดียที่รอบนี้เราสั่งเมนู Choka ขนมปังสไตล์เมือง Bihar ที่เสิร์ฟพร้อมปลาแมคเคาเรลและมะเขือบด เวลาทานให้เอาปลาวางบนขนมปังแล้วท็อปด้วยมะเขือบด อร่อยมาก ส่วนเพื่อนข้าง ๆ เลือก Truffle Bread ที่มีรสเผ็ดนิด ๆ หอมทรัฟเฟิล




ต่อด้วยเมนูฟัวกราส์ ‘Kebab-Loving King’ จากแคว้น Awadh ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่เลยทีเดียว แม้เราจะเริ่มอิ่มแต่ก็หมดในพริบตาเช่นกัน มาถึงเมนส์คอร์ส ‘Three Ways’ ที่มีให้เลือกระหว่าง ไก่ กับ แกะ ซึ่ง Lamb มีความนุ่มฉ่ำ ส่วนไก่ ส่วนตัวเราชอบมาก หนังกรอบนิด ๆ เนื้อนุ่ม และซอสรสชาติลงตัวมาก



ปิดท้ายด้วยของหวาน 2 เมนู คือ ‘A Tale of Milk & Sugar’ ดื่มด่ำกับความหอมของกุหลาบที่เมือง Mumbai และขึ้นเหนือไปเที่ยว Kashmir ที่รู้ได้ตั้งแต่เห็นหน้าตา ทำออกมาได้ชัดมาก ด้วยเมนู ‘Gucchi Hunt’ หรือ เห็ด Morel ก่อนจะเสิร์ฟผลไม้ล้างปาก และจบท้ายค่ำคืนด้วย Petit Fours แบบสวยงาม


ส่วนนักดื่มผู้รื่นรมย์ INDDEE ยังมีเครื่องดื่มที่หลากหลายด้วยโปรแกรม Pairing ที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 ของเอเชีย ทั้ง Wine Experience, Beverage Experience, Zero Alcohol Experience, Best of Both และ Flexi Experience ให้เราได้เลือกตามความชอบ เครื่องดื่มเหล่านี้ได้รับการจัดสรรมาอย่างลงตัวกับแต่ละคอร์ส ทำให้มื้ออาหารเต็มไปด้วยรสชาติและความสนุกในทุกคำ


Sineha Bangkok ต้องบอกเลยว่าทุกอย่างที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องรสชาติ แต่เป็นเรื่องราวของอาหารและวัฒนธรรมอินเดียที่ถูกเล่าผ่านทุกจาน การร่วมงานกับ Dr. Pushpesh Pant นักประวัติศาสตร์อาหารอินเดีย ทำให้แต่ละจานมีความหมายและเชื่อมโยงกับเรื่องราวดั้งเดิมของอินเดียอย่างลึกซึ้ง
สำหรับใครที่กำลังมองหาประสบการณ์อาหารอินเดียระดับพรีเมียมที่มีทั้งความสร้างสรรค์และรสชาติแท้จริง INDDEE คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด และ Sineha Bangkok แนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้าเพื่อให้ได้สัมผัสทุกความพิเศษของเมนูใหม่ล่าสุดนี้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองโต๊ะได้ที่เว็บไซต์ www.inddeebkk.com/reservations หรือสอบถามเพิ่มเติมที่เบอร์ +66 (0) 62 812 9696