พร้อมเมนูอร่อยคุณภาพสุดครีเอทีฟแบบที่ต้องลองสักครั้ง
ถ้าพูดถึงร้านอาหารลับในตำนานของสีลม เชื่อว่าชื่อ Eat Me ต้องติดอันดับต้น ๆ เสมอ และรอบนี้ Sineha Bangkok ได้กลับไปอีกครั้ง เพราะเพิ่งรู้ว่าที่ร้านมี Sunday Brunch ที่รู้ปุ๊บก็อยากมาลองเลย เขาบอกว่าเป็นช่วงเวลารับประทานอาหารที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ 11.00 น. ยาวไปถึง 17.00 น. แบบไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่ง ค่อย ๆ เอนหลัง สลับกิน สลับจิบ ใช้ทั้งวันให้คุ้ม เหมือนให้วันอาทิตย์กลายเป็นพื้นที่พักใจที่แท้จริง
บรรยากาศตอนเดินเข้าร้านก็ยังคงเป็น Eat Me แบบที่หลายคนรัก นิ่ง เท่ โมเดิร์น แต่ไม่วางท่าเกินไป ยิ่งพอเป็นมื้อสายวันอาทิตย์ ทุกอย่างดูช้าลงอย่างตั้งใจ และพอมารู้ว่าเชฟทิม บัทเลอร์กำลังจะปล่อยเมนูอเมริกันสมัยใหม่แบบไร้กรอบให้ลอง Sineha Bangkok ก็ยิ่งตื่นเต้น เพราะเชฟทิมเป็นคนที่เลือกวัตถุดิบดีมาก และชอบตีความใหม่แบบคาดไม่ถึงเสมอ
ด้านเครื่องดื่มก็ไม่ธรรมดา ป๊อป บุญธเนศ บาร์เมเนเจอร์ประจำร้านตั้งใจออกแบบเมนูให้เข้ากับบ่ายยาว ๆ ที่อยากให้ทุกคนจิบได้แบบสบาย ๆ ไปพร้อมกับอาหาร มีแพ็กเกจเครื่องดื่มแบบ free flow 3 ชั่วโมง ราคา 1,800++ บาทต่อท่าน ให้เลือกทั้ง Valdobbiadene Prosecco Superiore DOCG Brut ค็อกเทลสุดสดชื่นอย่าง Aperol Spritz, Bellini, Passionfruit Caipiroska, Margarita และเบียร์ หรือจะลุ้นค็อกเทลพิเศษประจำสัปดาห์ก็ได้ เพราะเขาจะเปลี่ยนเมนูเพื่อเพิ่มความสนุกให้มื้อบรันช์อยู่เสมอ
Sunday Brunch ที่นี่เสิร์ฟเป็นแบบ A-la-carte เมนูให้เลือกกินอย่างที่ชอบ แบบเน้นความอร่อยคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณแบบบุฟเฟต์ Sineha Bangkok เลยตั้งใจไปลองเมนูมื้อนี้ให้ครบที่สุดเท่าที่ไหว เพื่อจะได้เก็บรายละเอียดมาฝากคนอ่านแบบเน้น ๆ
เริ่มจากจานแรกที่ดูเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ONSEN EGG BENEDICT ราคา 500 บาท เสิร์ฟมาพร้อม Avocado, Lime และ Chilli ไข่ออนเซ็นนุ่มละลายในปาก ตัดด้วยความเปรี้ยวและเผ็ดบางๆ แบบพอดี เป็น Eggs Benedict ที่กินแล้วรู้สึกเบากว่าที่คุ้นเคย
ต่อด้วย DUCK CONFIT HASH ราคา 650 บาท ลบภาพจำเดิมของเมนูนี้ไปได้เลย เชฟทิมตีโจทย์ให้ใหม่ แปลกตา กินง่ายและอร่อยด้วย ไข่เป็ดทอดฟองกลมๆ วางบนมันฝรั่งและซอส Tabasco Aioli ที่ให้รสเปรี้ยวเผ็ดเล็ก ๆ ตัดเลี่ยนได้ดีมาก อร่อยลงตัวที่สุด
เมนูที่คาดไม่ถึงแต่ดีเกินคาดคือ WATERMELON SALAD ราคา 450 บาท แตงโมหวานฉ่ำ เสิร์ฟคู่ Ikura หอมๆ และ Fried Shallot ความเค็มจากอิคุระกับความหวานของแตงโมเข้ากันเกินคาด ทำให้เป็นสลัดที่สดใสและกินเพลิน
อีกจานที่ Sineha Bangkok รู้เลยว่าหลายคนจะอยากมากินตามคือ SEARED FOIE GRAS DOUGHNUT ราคา 750 บาท โดนัทเนื้อนุ่มอุ่นๆ เคลือบ Rum Caramel หอมมาก ตัดด้วยสับปะรดและ Pink Peppercorn จานนี้ลักซ์ชูรีและสนุกไปพร้อมกัน เหมือนของหวานและของคาวมาเจอกันแล้วลงตัวแบบไม่น่าเชื่อ
อีกจานไฮไลต์ RED KING KAMCHATKA CRAB LEG ราคา 1,080 บาทต่อน้ำหนัก 250 กรัม เสิร์ฟพร้อม Saffron Aioli และ Warm Butter ปูหวานชัด เนื้อแน่น ไม่ต้องปรุงอะไรมากก็ฟินแล้ว
ถ้าเป็นสายเนื้อหมูต้องลอง SMOKED PORK RIBS ที่มีทั้งราคา 400 บาทสำหรับ ¼ rack และ 800 บาทสำหรับ ½ rack กลิ่นสโมกหอมมาก เนื้อนุ่มล่อนกระดูก โป๊ะมาด้วยน้ำพริกหนุ่มแน่ ๆ ตัดเลี่ยนได้ดีเลย อร่อยขึ้นไปอีกระดับ
หนึ่งในเมนูที่หลายคนติดใจคือ CRAB / LOBSTER CONGEE ราคา 1,250 บาท โจ๊กที่ถูกตีความใหม่ให้มีความพรีเมียม ละมุน หอม ท็อปด้วยไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน และขนมปังกรอบ ความมัน ความเค็ม ความนัวอยู่ครบ
อีกจานที่กินแล้วสบายมากคือ LUGANEGA SAUSAGE ราคา 750 บาท มาคู่ Fried Rosemary, Crushed Potato และ Lemon จานนี้กลิ่นโรสแมรีสดชื่นมาก
สำหรับสายของหวาน Sineha Bangkok ขอแนะนำ WARM CHOCOLATE CHIP COOKIE ราคา 400 บาท คุกกี้อุ่น ๆ หอมช็อกโกแลต เพิ่มความลึกด้วย Bourbon และ Smoked Salt และถ้าอยากได้ความหวานขึ้นไปอีกนิด แบบคลาสสิกต้องลอง STICKY DATE PUDDING ราคา 390 บาท เสิร์ฟพร้อม Hot Butterscotch Sauce และ Vanilla Ice Cream ละลายใจแบบหยุดไม่ได้
ส่วนค็อกเทลที่ดีงามมากจนอยากให้ลองคือ LAAB MOO ราคา 440 บาท ค็อกเทลกลิ่นลาบแบบเก๋ๆ มี Mint, Shallot, Coriander และ Roasted Rice ให้เทกซ์เจอร์เฉพาะตัว, FA-RANG ราคา 460 บาท หอม Pink Guava สดชื่นมาก และ Mangosteen ราคา 460 บาท ที่กลิ่นและรสชัดแบบมังคุดแท้ๆ
ทั้งหมดนี้ทำให้ซันเดย์บรันช์ของ Eat Me เป็นมื้อที่ยาวและสนุกอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ Sineha Bangkok รู้สึกว่าที่นี่ไม่ได้ขายแค่อาหาร แต่ขายบรรยากาศและช่วงเวลาที่คุณจะได้พัก เติมพลัง และใช้เวลากับเพื่อนหรือคนรักแบบไม่ต้องรีบ เปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ 11.00–17.00 น. สำรองที่นั่งได้ที่โทร. +66 2 238 0931