พาย้อนวันวาน ไปกับเสน่ห์ของปิ่นโตมื้อกลางวันผ่านเมนูไทย 4 ภาค
อีกหนึ่งตัวจริง Soft Power ของไทย Sineha Bangkok ยกให้มาสเตอร์เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนสอนทำอาหารและมาสเตอร์เชฟแห่งภัตตาคาร บลู เอเลเฟ่นท์ (Blue Elephant) ที่โด่งดังทั่วยุโรปตะวันออกกลางและเอเชีย ครองใจทั่วโลกมากว่า 40 ปี ผู้ไม่เคยหยุดนิ่ง และล่าสุดกับการเปิดตัว BUSINESS SET LUNCH เซ็ตเมนูอาหารกลางวันสุดพิเศษ เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารรสชาติไทยแท้ ที่จะเสิร์ฟมาในย้อนวันวานเสน่ห์ของวิถีความเป็นไทย ผ่านเมนูอาหารไทย 4 ภาค
BUSINESS SET LUNCH เมนูอาหารไทย 4 ภาค 3 คอร์สเมนูที่หลากหลายของแต่ละวัน รังสรรค์เมนูในแต่ละวันแตกต่างกันออกไปผ่านการสร้างสรรค์ด้วยวัตถุดิบจากโครงการหลวง และท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย อาทิ อาหารเรียกน้ำย่อย อาทิ หอยเชลล์พริกไทยกระเทียมดำ ส้มตำ, ยำส้มโอ อาหารว่าง อาทิ หอยเชลล์ซอสจิ้มแจ่ว ส้มตำ, แสร้งว่ากุ้งแชบ๊วยปลาดุกฟู, ปอเปี๊ยะกุหลาบ, ลาบเป็ด พริกมะแขว่น, กระทงทองเพอรานากัน เมนูเพอรานากันพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้น ครั้งที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสปีนัง, ช่อม่วงไก่, ยำมะเขือม่วงโครงการหลวง หอยเชลล์, ทอดมันหัวปลี, ปูผัดผงกะหรี่ น้ำพริกเผา ชาโคลบัน
สำรับไทย (MAIN COURSES) อาทิ แกงมัสมั่นแกะโรตี ซิกเนเจอร์เมนูของมาสเตอร์เชฟนูรอ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒, ต้มยำกุ้งลายเสือน้ำพริกเผา เมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อครั้งที่ตัวแทนราชสำนักฝรั่งเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5, เป็ดฮ้อง อาหารเพอรานากันที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต, เพอรานากันแกงตูมี้กุ้งแชบ๊วย, ต้มส้มขมิ้นปลาหิมะ น้ำส้มลูกจาก (ส้มสายชูหมักธรรมชาติที่ผลิตในตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช) แกงเขียวหวานไก่, ผัดผักบุ้งกุ้งเสียบ, ต้มข่าเนื้อปู, ผัดกะเพราแก้มวัวตุ๋น, ปลาหิมะซอสมะขาม, ผัดถั่วหวาน, ยำอกเป็ดลิ้นจี่, ต้มข่าไก่, ปลาอินทรีย์ผัดพริกขี้หนูกะเพราป่า และข้าวเหนียวขมิ้นคั่วกลิ้งปลา, ปลาอินทรีย์ผัดฉ่า, ผัดกะหล่ำปลีกุ้งเสียบ
ขนมหวาน อาทิ ขนมหม้อแกงถั่วพิตาชิโอ้อินทผลัม, ข้าวเหนียวลืมผัวเปียกลำไยน้ำมะพร้าวอ่อน, ทับทิมกรอบ, ช็อคโกแลตมูส ไอศกรีมวานิลา, ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้
Sineha Bangkok มีโอกาสได้มาลิ้มลอง BUSINESS SET LUNCH ของวันอังคาร ก็ได้เมนูตามลิสต์ข้างล่างนี้เลย ตามมาดูความน่ากินของแต่ละเมนูกันเลย
เริ่มกันที่ Amuse Bouche เปิดต่อมรับรสกันก่อนเลยกับ ต้มจิ๋วไก่ และ ลาบปลาดุกห่อใบชะพลู แซ่บจัดจ้านตั้งแต่คำแรกตามสไตล์ถึงเครื่องแกงของมาสเตอร์เชฟนูรอ
แล้วต่อด้วยอาหารว่าง STARTERS กับ แสร้งว่ากุ้งแชบ๊วยปลาดุกฟู และ ปอเปี๊ยะกุหลาบ เมนูละคำที่เรียกน้ำย่อยได้ดีเหลือเกิน ^_^
หลังจากนั้นพนักงานก็จะเริ่มเสิร์ฟสำรับไทย MAIN COURSES ในรูปแบบปิ่นโตสามเถาที่ มาสเตอร์เชฟนูรอ เล่าว่าอยากนำเสนออาหารไทยย้อนวันวาน ที่สมัยก่อนเราจะหิ้วปิ่นโตไปทำบุญที่วัดหรือปิ่นโตไปโรงเรียน ซึ่ง Sineha Bangkok ก็หิ้วปิ่นโตไปทำบุญที่วัด และหิ้วปิ่นโตไปกินที่โรงเรียนเช่นกัน ^^ ใครทันก็ได้ย้อนอดีตให้หายคิดถึง ยิ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แน่นอนว่าต้องถูกใจแน่นอนได้สัมผัสอาหารไทยแท้ ๆ ในรูปแบบไทยย้อนวันวานแบบนี้
เกริ่นไปไกลเลย วกกลับมาเข้า MAIN COURSES กันที่เมนู ต้มข่าเนื้อปู ที่ใช้เนื้อปูจากสุราษฎ์ธานี สด ๆ ก้อนโตในน้ำต้มข่ามะพร้าว รสชาติกรมกล่อม เมนูนี้ถูกใจ Sineha Bangkok จนรู้สึกว่าถ้วยที่มาเสิร์ฟเล็กไปเลย ^_^’
ผัดกะเพราแก้มวัวตุ๋น เนื้อวัวพันธุ์ไทย ที่เชฟเน้นใช้วัตถุดิบจากไทยเป็นหลักให้สมกับความเป็นอาหารไทย หาวัตถุดิบดี ๆ ได้ในไทย และเผยแพร่ไปได้ทั่วโลก เนื้อแก้มวัวตุ๋นเนื้อนุ่มได้ที่นำมาผัดกะเพรา เมนูบังคับที่ใครก็ชอบทานแน่นอน
ปลาหิมะซอสมะขาม มาสเตอร์เชฟนูรอ ช่างคัดสรรวัตถุดิบจริง ๆ เมนูนี้ก็ทำได้ดี รสชาติถูกปากมากเช่นกันค่า
ผัดถั่วหวาน หนึ่งใน BUSINESS SET LUNCH ที่เสิร์ฟต้องมีเมนูหลากหลาย ต้ม ผัด แกง ทอด ผัดผักจึงเป็นตัวเลือกที่ต้องมี
มาถึงขนมหวานปิดท้ายด้วยเมนู ข้าวเหนียวลืมผัวเปียกลำไยน้ำมะพร้าวอ่อน เมนูของหวานอร่อยถูกใจมาก ไม่หวานไป ทุกอย่างลงตัวกำลังดีเลย
ส่วนใครเป็นแฟนประจำต้องไม่พลาดสั่งเมนูซิกเนเจอร์กันด้วยนะ ทั้ง ซี่โครงหมูย่างน้ำผึ้ง ที่หมักนานถึง 48 ชั่วโมงจนซี่โครงหมูนุ่มรสชาติดีมาก หรือ โรตีมัสมั่นแกะ ที่สั่งถือว่าพลาด และขนมหวานเมนูฮิตอย่าง คัสตาร์ดมะพร้าว และ ขนมหม้อแกงถั่วพิตาชิโอ้อินทผลัม
สัมผัสประสบการณ์มื้อกลางวันสุดพิเศษในบรรยากาศคลาสสิก ณ ภัตตาคาร บลู เอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ สาขาสาทร ราคาท่านละ 1,280++ ในวันจันทร์ – ศุกร์ และราคา 1,580 ++ บาท สำหรับวันเสาร์ – อาทิตย์ สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2673 9353-8 หรือ เฟสบุ๊คส์: www.blueelephant.com หรือ Line Official: @blueelephantbkk