ฉลองครบรอบ 1 ปีกับบาร์ลับสุด Exclusive ที่ซ่อนตัวบนตึกเก่ากว่าร้อยปีกลางเยาวราช
Grand Openingและฉลองครบรอบ 1 ปีพร้อม 3 รางวัลที่ได้ตั้งแต่ปีแรกอย่าง50 Best Discovery, Winner of Giffard West Cup Thailand และ Winner of Flor de Caña Sustainability Cocktails Challenge Thailand การันตีความไม่ธรรมดาของ Opium Bar ได้เลย
ใจกลางความพลุกพล่านของเยาวราชที่รายล้อมด้วยร้านรวงและสารพัดสตรีทฟู้ดและร้านค้าส่งสินค้ามากมาย คือที่ตั้งของ Potong ร้านอาหารโปรเกรสซีฟไฟน์ไดนิ่งไทย-จีน ซึ่งบูรณะจากห้างขายยาจีนโพทง ที่อยู่ในชั้น1-3 แต่หากขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 4 ก็จะเป็น Opium Bar ที่แต่เดิมเป็นห้องสูบฝิ่น ส่วนชั้น 5 เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวเจ้าของร้านขายยาโพทง มาก่อน ก็กลายมาเป็นรูฟท็อปบาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Opium Bar นั่นเอง
สำหรับความพิเศษในค่ำคืนวันครบรอบ 1 ปีของร้าน ภายใต้ชื่อAn Exquisite Night at Opium Bar พร้อมประกาศเปิดตัวห้องไพรเวทBlack Jade ต้อนรับปี 2023 เพื่อเหล่านักดื่มที่ต้องการสัมผัสเครื่องดื่มสุด exclusive ที่มีเพียงไม่กี่ขวดในโลก
ในงานมีการเสิร์ฟ 4 ค็อกเทลสุดพิเศษที่จัดทำขึ้นเพื่อฉลองโอกาสสำคัญนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ ค็อกเทล Botanist Martini เสิร์ฟ ณ Rooftop Garden Bar ชั้น 5, ค็อกเทล Naked Fashion และค็อกเทล Trieu Sour เสิร์ฟ ณ Opium Lounge ในบาร์ชั้น 4 และค็อกเทล Remy Highball เสิร์ฟภายในห้องไพรเวท Black Jade ที่นอกจากจะประกาศเปิดตัวในวันนี้แล้วยังเปิดโอกาสพิเศษให้แขกทุกท่านได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศภายในห้อง พร้อมยังสามารถถ่ายรูปกับ photobooth เก็บรูปกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกกันอีกด้วย
นอกจากนี้แขกทุกท่านยังได้ดื่มด่ำกับดนตรีแซกโซโฟนแบบสดๆ ที่บาร์ Opium Louge กันตลอดคืน ชม exotic pole dance ณ ห้องGlass House ที่บาร์ชั้น 5 ได้ลิ้มลองอาหารเมนูพิเศษส่งตรงจากร้านโพทง ของเชฟแพม พิชญา สุนทรญาณกิจ ที่เพิ่งจะคว้า 1 ดาวมิชลินในปีนี้
แนวคิดของ Opium Bar เกิดขึ้นภายใต้คำว่า ‘Liquid Surreality’ สิ่งที่เห็นอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่คิด โดยเฉพาะการปรับแต่งสีค็อกเทลหลายแก้วให้ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่า รูปแบบการนำเสนอดริงก์ที่ใช้เทคนิคผสมผสานทั้งจากการทำอาหารหรือเทคนิควิทยาศาสตร์ หรือการดัดแปลงคลาสสิกค็อกเทลให้มีลูกเล่นและรสชาติซับซ้อนกว่าเดิม รวมไปถึงการทำน้ำเชื่อมและวัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบค็อกเทลแต่ละแก้วเองแบบไม่ต้องพึ่งใคร
คุณเคเค-อานนท์ ฮุนตระกูล เจ้าของOpium Bar ที่เติบโตในฝรั่งเศส เป็นเจ้าของร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟหลายแห่งในประเทศไทยและฝรั่งเศส เขาเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ เพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูล นำมาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และเพื่อมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครสู่วงการบาร์ในประเทศไทย
จินตนาการของเขาที่มีต่อ “Opium Bar” มีจุดกำเนิดจากความหลงหลในประวัติและความเก่าแก่ของอาคารโพทง อาคารสูง 5 ชั้น ที่เป็นที่ตั้งของบาร์ Opium นั่นเอง โดยตึกแห่งนี้มีเรื่องราวของตัวเองในอดีตมาอย่างยาวนาน เมื่อฝิ่นยังถูกกฎหมายในอดีต ห้องที่เป็นที่ตั้งของบาร์ในปัจจุบันถูกใช้เป็นห้องสูบฝิ่น คุณเคเคจึงได้รับแรงบันดาลใจและตั้งชื่อบาร์ว่า “Opium Bar หรือบาร์ฝิ่น” โดยใช้ concept “ความเหนือจินตนาการจากของเหลว (Liquid)” ที่จะทำให้ลูกค้าเสมือนได้เดินทางย้อนกาลเวลากลับไปสัมผัสเรื่องราวในอดีต ราวกับได้ท่องเที่ยวในจินตนาการของเขาด้วยฝิ่น
คุณแมท แมทธีโอ หัวหน้าทีมบาร์เทนเดอร์อารมณ์ดีที่มากฝีมือ มากประสบการณ์ ผู้สร้างรอยยิ้มหลังบาร์ให้แก่นักท่องราตรี สิ่งที่ทำให้เค้ามีความสุขที่สุดคือเมื่อบาร์เนืองแน่นไปด้วยนักดื่ม จากบ้านเกิดประเทศอิตาลี ก้าวไปสู่เส้นทาง Mixologist โดยเริ่มต้นจากบาร์ที่อัมสเตอร์ดัม หลังจากนั้นก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์และฝึกปรือฝีมือ ณ ประเทศ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ รวมไปถึงเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ทำให้เค้าคนพบตัวเองว่าเค้าหลงใหลการทำเครื่องดื่มค็อกเทลอย่างแท้จริง
Matt Matteo (แมทธีโอ) ได้กลายมาเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของทีม Opium เค้ามีแรงบรรดาลใจและความหลงใหลในการสร้างสรรค์พัฒนาค็อกเทลต่างๆ ให้ออกมาแตกต่างผ่านความคิดสร้างสรรค์ของเค้า เค้าเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนง่าย มีความคิดริเริ่มใหม่ๆ อยู่เสมอ พร้อมที่จะทดลองสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการค้นพบรสชาติใหม่ๆ จากการการผสมผสานส่วนผสม
Opium Bar
Open: วันจันทร์, พฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา 17.00-00.00 น.
Address: 422 ซอยวานิช 1
Budget: 500-1,000 บาท
Map: https://goo.gl/maps/ZefPk9ztQbgML86t6
ลิงค์จอง
https://book.chope.co/booking?rid=bartenderseats2201bkk&source=rest_line.barten derseats&smart=1