ยังคงเสน่ห์แบบต้นตำรับแต่เล่าเรื่องใหม่ให้ร่วมสมัยโดยเชฟจิ๊บ

เวลาอยากกินอาหารไทยที่ทั้งหรูหราและเต็มไปด้วยเสน่ห์ดั้งเดิม Sineha Bangkok มักจะนึกถึงห้องอาหาร Celadon ที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ เสมอ และครั้งนี้ก็เป็นโอกาสพิเศษที่เราได้กลับมาอีกครั้ง เพื่อชิมเมนูใหม่ล่าสุดที่ เชฟ ชภรภัช ดาภาชุติสรรค์ หรือ “เชฟจิ๊บ” รังสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ

บรรยากาศห้องอาหารยังคงความสวยงามคลาสสิก รายล้อมด้วยสระบัวและเรือนไทยร่วมสมัย ทุกจานถูกเสิร์ฟบนภาชนะเซลาดอนเคลือบสีเขียวที่เป็นซิกเนเจอร์ เหมือนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ท่ามกลางงานศิลป์ที่จับต้องได้ และการรำโชว์ในห้องอาหาร ที่ยังเป็นอีกเสน่ห์ของ Celadon


เชฟจิ๊บ: ประสบการณ์และแรงบันดาลใจ
เชฟจิ๊บมีประสบการณ์กว่า 19 ปีในวงการอาหาร ผ่านการศึกษาจากสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ทั้งในลอนดอนและออสเตรเลีย เชี่ยวชาญการผสมผสานเทคนิคฝรั่งเศสกับรสชาติไทยแท้ และยังดึงแรงบันดาลใจจากบ้านเกิดในภาคใต้มาเป็นเอกลักษณ์ของเมนูใหม่ ทำให้ทุกจานเต็มไปด้วยกลิ่นอายความทรงจำและความคิดสร้างสรรค์ที่ลงตัว


ไฮไลต์เมนูใหม่ที่ต้องลอง
ข้าวพับใบเตยโบราณ 550 บาท แรงบันดาลใจจากอาหารพื้นบ้านของอุตรดิตถ์ เชฟนำเมนูดั้งเดิม “ข้าวพับ” มาปรับโฉมใหม่ ตัวแป้งนุ่มสีเขียวธรรมชาติจากใบเตยออร์แกนิกปลูกเอง สอดไส้ด้วยหน่อไม้สดและเห็ดพื้นบ้าน 3 ชนิด โรยหน้าด้วยปูม้าก้อนโตจากอันดามัน เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสับปะรดหมักรสเปรี้ยวหวาน กลายเป็นจานที่ทั้งอร่อยและเล่าเรื่องราวของท้องถิ่นไปพร้อมกัน

กุ้งแพทอดกรอบใบเล็บครุฑน้ำจิ้มถั่วตัด 390 บาท เมนูนี้โดดเด่นที่การใช้ ใบเล็บครุฑ พืชพื้นบ้านภาคใต้ที่หาทานได้ไม่ง่าย เชฟนำมาชุบแป้งทอดจนกรอบ คลุกเคล้ากับพริกแกงตำสูตรพิเศษ รสชาติจัดจ้านแต่กลมกล่อม เสิร์ฟกับกุ้งแชบ๊วยสดจากกระบี่และน้ำจิ้มมะขามที่เปรี้ยวหวานกำลังดี กินแล้วทั้งเพลินและน่าสนใจเพราะได้เรียนรู้สมุนไพรไทยไปด้วย

ยำเนื้อย่างองุ่น 650 บาท เมนูที่ทั้งสดชื่นและจัดจ้านในคำเดียว เนื้อออสเตรเลียนำเข้าหมักสมุนไพรไทยแล้วย่างจนหอม คลุกเคล้ากับสมุนไพรสดและองุ่นแดงที่ให้ความหวานธรรมชาติ น้ำยำสูตรพิเศษไม่ใส่น้ำตาล แต่ใช้ความหวานจากองุ่นแทน ทำให้รสชาติบาลานซ์และซับซ้อน

ยำส้มโอขาวใหญ่อัมพวากุ้งแม่น้ำย่าง 550 บาท เมนูที่สะท้อนความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ใช้ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่อัมพวาหวานอมเปรี้ยว คลุกกับน้ำยำกะปิคั่วและปลาเนื้ออ่อนที่หอมเป็นพิเศษ เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำย่างบนเตาถ่านหอมกรุ่น โรยหน้าด้วยมะพร้าวคั่ว เพิ่มความหอมกรอบ เป็นยำที่ครบทั้งรสชาติและกลิ่นอายท้องถิ่น

แกงส้มเนื้อปลาอุณรุตก้านโชน 900 บาท รสชาติที่คนรักแกงใต้ต้องถูกใจ เชฟใช้ปลาเก๋าแดงจุดฟ้า เนื้อแน่นหวานธรรมชาติ มาคู่กับก้านโชนที่กรอบและดูดซับน้ำแกงได้ดี พริกแกงโขลกสดหอมเข้มข้น ขมิ้นสดให้สีเหลืองสดใส เผ็ดร้อนจัดจ้านแต่กลมกล่อม

แกงระแวงแก้มวัว 850 บาท เมนูโบราณที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อย ๆ เชฟตุ๋นแก้มวัวนานกว่า 12 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่มละลายในปาก คลุกเคล้ากับพริกแกงเข้มข้นและกะทิสด รสชาติขลุกขลิกจัดจ้าน เผ็ดร้อนแบบไทยแท้ และยังเป็นเมนูที่หาทานยากในปัจจุบัน

ปลาเก๋าย่างห่อใบตอง 750 บาท ความเรียบง่ายที่แฝงด้วยดีเทล ปลาเก๋าจากอันดามันหมักสมุนไพร ห่อใบตองแล้วย่างด้วยเตาถ่านจนหอม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดกระเทียมไทยรสแซ่บ กลิ่นหอมของใบตองและถ่านช่วยเพิ่มมิติของรสชาติได้ดี

กุ้งแม่น้ำสามสายย่างไม้โมก 3,000 บาท เมนูซิกเนเจอร์ที่ทั้งหรูหราและเปี่ยมเสน่ห์ กุ้งแม่น้ำขนาดพิเศษน้ำหนัก 250 กรัม จากแม่น้ำ 3 สาย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง และบางปะกง เนื้อกุ้งสดแน่น เด้ง หวานธรรมชาติในแบบที่คนรักซีฟู้ดต้องยกนิ้วให้เชฟเลือกใช้ ไม้โมกป่า (Wild Water Plum) เป็นเชื้อไฟในการย่าง ทำให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่อบอวลไปทั่วทั้งจาน เนื้อกุ้งจึงไม่เพียงนุ่มฉ่ำ แต่ยังซึมซับกลิ่นควันไม้ที่ละมุนและแตกต่างเสิร์ฟพร้อม 3 น้ำจิ้มสูตรพิเศษ

เต้าหู้ทอดกรอบน้ำจิ้มถั่ว 350 บาท ที่ใช้เต้าหู้ต้ามู้สูตรโบราณ 100 ปีจากนครปฐม ที่ทำด้วยวิธีดั้งเดิม เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนเหมือนคัสตาร์ด พอทอดออกมาได้กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มมะขามเคี่ยวใส่น้ำตาลมะพร้าวและโรยถั่วตัด กินคำแรกก็ได้ทั้งความกรอบ มัน และเปรี้ยวหวานลงตัว

ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้ไก่สับใบชะคราม 450 บาท ปลาหมึกสดยัดไส้ไก่สับจากเบตง คลุกกับใบชะครามผักพื้นบ้านริมทะเลที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว น้ำซุปใสกลมกล่อมช่วยบาลานซ์รสเผ็ดจัดจ้านจากเมนูหลัก เป็นจานที่ทั้งเบาและอร่อย


ทับทิมสยาม 450 บาท ทับทิมกรอบสูตรคลาสสิกที่ยังคงความละเมียด เม็ดแห้วเคลือบแป้งกรอบหนึบ เสิร์ฟกับน้ำเชื่อมหวานละมุน น้ำกะทิคั้นสด และน้ำแข็งเกล็ดเล็ก กินแล้วสดชื่นทุกคำ

ไอติมสับปะรด 160 บาท ซอร์เบต์สับปะรดพันธุ์ดีจากเชียงราย เนื้อเนียนละเอียด รสหวานอมเปรี้ยวตามธรรมชาติ

กล้วยไข่เชื่อมทรงเครื่อง 350 บาทกล้วยไข่พันธุ์พิเศษจากภาคใต้เชื่อมจนหอมหวาน ราดซอสสูตรพิเศษทำจากถั่วแดง เผือก ลูกตาล และมันเทศ ปิดท้ายด้วยไอศกรีมกะทิสดหอมมัน
สิ่งที่ทำให้ประทับใจคือทุกเมนูไม่ใช่แค่ความอร่อย แต่ยังเล่าเรื่องราวของท้องถิ่นและประวัติศาสตร์อาหารไทยไว้ด้วย บรรยากาศห้องอาหาร Celadon ก็ยิ่งเสริมประสบการณ์ให้เหมือนนั่งอยู่ในฉากศิลป์ที่ผสมผสานกับรสชาติได้ลงตัว เชฟจิ๊กเก่งจริง อาหารอร่อยถูกปาก Sineha Bangkok ทุกเมนูที่ได้ลอง สำหรับใครที่กำลังมองหาประสบการณ์อาหารไทยร่วมสมัยที่ยังคงเสน่ห์ต้นตำรับ ขอแนะนำว่าที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายที่ควรค่าแก่การลองจริง ๆ
ห้องอาหาร Celadon – โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ
เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน 12.00 – 15.00 น. | มื้อเย็น 18.00 – 22.00 น.