เตรียมเปิดบริการใหม่ “CABB Plus” และ “CABB EV” พร้อมดันโมเดล “คนขับแค็บบ์สู่ผู้ประกอบการ”
“แค็บบ์ แบงค็อก แท็กซี่” (CABB Bangkok Taxi) บริการรถแท็กซี่สาธารณะระดับวีไอพีที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “แท็กซี่ส่วนตัวเพื่อคนกรุงเทพฯ” ฉลองการเปิดให้บริการดำเนินธุรกิจในเมืองไทยครบ 2 ปี พร้อมกางแผนเตรียมขยายธุรกิจใหม่ “แท็กซี่ป้ายดำ” ให้บริการเรียก แท็กซี่วีไอพี และ แท็กซี่ส่วนบุคคล ผ่านแอปพลิเคชัน “CABB Plus” เพื่อขยายการให้บริการสู่ตลาดและรองรับความต้องการของคนเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน
นายศฤงคาร สุทัศน์ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด แถลงความสำเร็จเนื่องในโอกาสการเปิดให้บริการครบ 2 ปี ว่า จากวันแรกที่ แค็บบ์ ออกสตาร์ทบริการรับ-ส่งผู้โดยสาร พบว่า เรามีจำนวนเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เปิดให้บริการมา หลังจากผ่านช่วงวิกฤตการระบาดของโรค Covid-19 ในช่วง 2 ปีแรกมาแล้ว สถานการณ์เริ่มดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการก้าวไปข้างหน้า
แค็บบ์ มีกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเป็นประจำผ่านการบริการจองรถล่วงหน้า ซึ่งลูกค้าเล็งเห็นความสม่ำเสมอในการให้บริการ “CABB Bangkok Taxi แท็กซี่ส่วนตัวเพื่อคนกรุงเทพฯ” ตามสโลแกน เพราะหัวใจหลักในการให้บริการคือ ความปลอดภัย สะดวก สุภาพ สะอาด ผู้โดยสารจึงให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในความปลอดภัยที่มากพอในการเรียกรถให้แก่ทุก ๆ คนในครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นเรียกรถสำหรับรับส่งบุตรหลาน หรือ เรียกรถสำหรับพาผู้สูงอายุไปสถานพยาบาล ซึ่งมีบริการสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการบริการแท็กซี่ในประเทศไทยที่มีมาตรฐานความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน CABB มีรถแท็กซี่ วีไอพี สไตล์ลอนดอนให้บริการรับส่งผู้โดยสารกว่า 400 คัน และภายในไตรมาส 4 นี้จะเพิ่มบริการรับ-ส่งผู้โดยสารเต็มที่ 600 คัน บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนรถ CABB Bangkok Taxi วิ่งทั่วกรุงเทพและปริมณฑลรวม 1,200 คัน ภายในปี 2567 ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณรถที่จะออกให้บริการมากยิ่งขึ้น เรามีแผนในการจัดหาและฝึกอบรมผู้เช่าขับขับรถเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้า
โดยจำนวนลูกค้าประจำของ CABB พบว่า มีมากกว่า 30,000 ราย หลายๆ รายมีการเรียกใช้รถของ CABB มากกว่า 100 เที่ยวต่อเดือน โดยค่าเฉลี่ยของลูกค้าที่เรียกใช้รถอยู่ที่ 3.5 ครั้งต่อเดือน (ค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 120 บาท) โดยสถานที่ที่ลูกค้านิยมเรียกให้ไปส่งมากที่สุด 4 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ, อันดับ 2 สนามบินดอนเมือง อันดับ 3 โรงพยาบาลเอกชน ตามด้วย อันดับ 4 โรงเรียนนานาชาติ
พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์ “คนขับแค็บบ์” ผลักดันให้คนขับได้เป็นผู้ประกอบการ ร่วมสร้างรายได้ผ่านการเช่าขับ CABB Bangkok Taxi ซึ่งมีโอกาสในการสร้างรายได้ที่สูงและมั่นคง มีช่องทางหลากหลายในการรับงาน เช่น CABB Application, จุดบริการ CABB Counter Service ตามห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาลชั้นนำ, สายด่วนช่วยหาลูกค้าและแนะนำการให้บริการ
โดยสำหรับผู้เช่าขับนั้น บริษัทฯ ได้มีการจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้เช่าขับทุกคนเพื่อให้มีการรับรู้ถึงลักษณะของการเป็นผู้ให้บริการที่ดีและมีจิตใจในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เช่าขับแม้ในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีแท็กซี่ไร้คนขับ (Autonomous driving) เข้ามา กลุ่มผู้เช่าขับเหล่านี้ก็ยังคงสามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวได้ต่อไป
กลุ่มเป้าหมายหลักที่อยากให้เปิดใจมาสมัครเป็นคนขับแค็บบ์ คือ คนที่มีหัวใจรักบริการ มีมารยาทดี มีทัศนคติที่ดี ในการให้บริการรับส่งผู้โดยสาร ทางบริษัทฯ มั่นใจว่าหากคนขับ แค็บบ์ ให้บริการที่มีคุณภาพและสามารถมอบบริการตามที่ผู้โดยสารคาดหวังได้ จะสามารถยกระดับธุรกิจการให้บริการแท็กซี่ขึ้นไปอีกขั้น
เราจึงอยากเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ที่สูงกว่าและมีส่วนในการสร้างอาชีพให้คนขับเป็นผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกและความหลากหลายในการให้บริการ
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ได้จัดสร้างแอปพลิเคชัน ตัวใหม่ สำหรับใช้บริการรถแท็กซี่วีไอพี แค็บบ์ และ แท็กซี่พรีเมียมส่วนบุคคล (แท็กซี่ป้ายดำ) เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายแก่ผู้โดยสาร ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับการพิจารณารับรองจากกรมการขนส่งทางบกตามกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีกด้านของความสำเร็จของบริษัทฯ คือ ทาง แค็บบ์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถแท็กซี่เพื่ออนาคต (CABB EV) รวมไปถึงลงนามสัญญาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้รับจ้างประกอบและซัพพลายเออร์ในการผลิตรถ “CABB EV” หรือ “แท็กซี่วีไอพีพลังงานไฟฟ้า” เพื่อผลิตรถแท็กซี่ไฟฟ้าต้นแบบสัญชาติไทยคันแรก โดยมีเป้าหมายที่จะใช้ภายในประเทศในปี 2566 และจำหน่ายในต่างประเทศที่ใช้พวงมาลัยขวา ภายในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งคาดว่าจะมียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 คันต่อปี
สำหรับแผนในปีหน้า บริษัทจะมีการระดมทุน Raise Fund โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำมาลงทุนและพัฒนาด้านรถแท็กซี่ EV และ แท็กซี่ไร้คนขับ (Autonomous driving) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่โลกแห่งอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ CABB Call Centre โทร 02-026-8888 หรือ Line OA @CABB คลิก https://lin.ee/ZZwZUQH หรือ สนใจสมัครเช่าขับแค็บบ์ ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างอาชีพเพื่อคนไทยผ่านโมเดล “คนขับแค็บบ์สู่การเป็นผู้ประกอบการ” การันตีรายได้ดี มีความมั่นคงได้ง่ายๆ เพียงแอดไลน์ @cabbdrivers คลิก https://lin.ee/RTXAR5n