แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่จังหวัด บึงกาฬ มีเสน่ห์แค่ไหนหรือ ? ทำไมใคร ๆ ก็ไม่เที่ยวกันนะ แอบมีข้อสงสัยกับตัวเองมาซักพัก หลังเห็นโพสต์ในโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ อย่าให้ความสงสัยคาใจตามไปเที่ยวบ้างดีกว่า
เรือนไม้อีสานที่ปรับปรุงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต บึงกาฬ ถูกริเริ่มโดย สุทธิพงษ์ สุริยะ หรือ “ขาบ” อาจารย์พิเศษสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา เจ้าของ Karb Studio นักออกแบบภาพลักษณ์อาหาร (Food Stylish) และการเกษตร ที่ตั้งใจกลับบ้านเกิดเพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เขาเอาบ้านตัวเองมาเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะอยากให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของครอบครัวชาวอีสานในอดีตผ่านข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสร้างรายได้ที่ยั่งยืนเข้าสู่ชุมชนผ่านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมในวิถีพื้นบ้าน จนพัฒนามาเป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตที่หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ท่ามกลางชุมชนเล็กๆ 50 ครัวเรือนที่เงียบสงบ



จากหมู่บ้านที่เงียบสงบเล็ก ๆที่ยังคงมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ทั้งการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการนุ่งซิ่น สะพายกระติ๊บ ตักบาตรข้าวเหนียว กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวสตรีทอาร์ต หรือหมู่บ้านภาพวาดเขียนสีพญานาค หนึ่งเดียวในโลก ที่ได้นำความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพญานาคของคนท้องถิ่น ผสมผสานกับอาชีพเกษตรกรรมและความชอบของแต่ละครอบครัว มาวาดเป็นภาพเขียนสีพญานาคบนผนังของแต่ละบ้าน ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมกับงานศิลปะสมัยใหม่อย่างลงตัว



พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตบึงกาฬ เน้นการใช้ศิลปะนำในการเข้ามาจัดการอย่างมีระบบ สอดรับกับวิถีเกษตรชุมชน เพราะมุ่งหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืน อยากให้ผู้คนมาเจอกันและมีรายได้เกื้อกูลกัน
บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ของพิพิธภัณฑ์ แบ่งเป็น 3 โซน ส่วนของโซนพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เก็บค่าเข้าชม 50 บาทต่อคน เพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาสถานที่ โดยถ้ามาเที่ยวช่วงเสาร์อาทิตย์ หรือช่วงปิดเทอมจะมีมัคคุเทศก์น้อยคอยแนะนำด้วย



ย้อนกลับมาดูที่ตัวเรือนไม้ที่ใช้เป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตบึงกาฬ เป็นเรือนไม้อีสานเก่าแก่อายุกว่า 60 ปี ถูกปรับภาพลักษณ์ให้น่าสนใจขึ้นด้วยนักออกแบบภาพลักษณ์ที่เก็บรายละเอียดของอดีตไว้ให้ความรู้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ตัวอย่างเช่น ตัวบ้านสมัยก่อนจะมีบายศรีทำจากใบตอง และตกแต่งด้วยดอกดาวเรืองและดอกพุดตูมสีขาว เป็นดอกไม้ที่คนอีสานนำไปไหว้พระ ที่ได้นำใช้เป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ อีกด้วย หรือ ระเบียงกว้างบริเวณชั้น 2 ของบ้านยังออกแบบให้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในบ้านเป็นห้องโถงกลางใหญ่ แบ่งเป็นห้องปีกซ้ายและปีกขวา แต่ละห้องตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบอีสาน และผ้าซิ่นไหม
ในแต่ละห้องมีภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวอีสานและชาวไทย



ส่วนห้องรับแขก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ โซฟาหวาย และแต่ละมุมของห้องมีข้าวของโบราณที่วางโชว์ไว้ถ่ายรูปแล้วได้อารมณ์ดีด้วย



ส่วนห้องครัวแสดงให้เห็นวิถีชีวิตอีสานแบบสมัยก่อน มีข้าวของในครัวที่เคยใช้งานจริงจัดแสดงไว้ ทั้ง เตาถ่าน หม้อ ตะกร้า กระทะ จานชาม ฯลฯ
บริเวณพื้นที่โดยรอบของพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ เช่น พื้นที่ด้านนอก เป็นลานวัฒนธรรมกลางต้นไม้ใหญ่ โดยรอบมีภาพวาดกำแพงสังกะสี และอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือประกอบการใช้ชีวิตของผู้คนมาประดับตกแต่งโดยรอบ รวมถึงซุ้มที่ตั้งทั้งขายของกินของใช้จัดกิจกรรมบ้างตามเทศกาลและโอกาส หรือ “Green Activities” ลานอเนกประสงค์ติดกับพิพิธภัณฑ์







อีกทั้งมีการสร้างเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยและบุคลากรในสาขาต่างๆ หมุนเวียนมาสร้างองค์ความรู้และคำแนะนำให้กับชุมชนในการสร้างอาชีพ หรือห้องประชุมนอกสถานที่ให้กับผู้สนใจก็ได้เช่นกัน
พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวแล้วต้องช้อป ที่นี่จึงจัดให้มี “ตลาดชุมชนพอเพียง” ที่เน้นส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยทุกอำเภอในบึงกาฬ นำวัตถุดิบท้องถิ่น วางจำหน่ายทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ มี “พื้นที่ศิลปะและชมดอกไม้ริมทุ่ง” ที่ดอกไม้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล รวมทั้งภาพวาดศิลปะแนวธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วไป มี“พิพิธภัณฑ์วัด พุทธหัตถศิลป์” วัดเล็กๆ ในชุมชน มีนักท่องเที่ยวมาพักโฮมสเตย์ตื่นเช้าตักบาตร สักการะด้วยหมากเบ็งดอกพุดแบบเรียบง่าย ไม่จุดธูปเทียนให้เกิดมลพิษ รายได้หมุนกลับมาช่วยชุมชน
จุดต้องห้ามพลาด!! อย่าลืมเช็กอิน “ภาพวาดเขียนสีพญานาคกับอาชีพชุมชน” ซึ่งเมื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน ก็จะเริ่มเห็นภาพวาดพญานาคบนผนังบ้านตลอดสองข้างทาง




แนวคิดภาพวาดพญานาค เป็นความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตจังหวัดบึงกาฬ กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่จัดทำโครงการ “วาดบ้านแปงเมือง” ตามความเชื่อและศรัทธาในพญานาคของคนในชุมชน




ภาพวาดเขียนสีพญานาคที่เกิดขึ้นกระจายตามฝาบ้านแต่ละหลังมีหลากหลายแบบ อาทิ ภาพพญานาคตัดผม ตามอาชีพเจ้าของบ้าน คือ ช่างตัดผม, ภาพพญานาครดน้ำต้นไม้ อาชีพเจ้าของบ้าน คือ ทำสวนเกษตร, ภาพพญานาคขับรถไถนา เจ้าของบ้านยึดอาชีพรถไถนารับจ้าง,บ้านที่ขายไอศกรีมมีพญานาคที่ชอบไอศกรีมซันเดย์, บ้านที่ขายลอดช่อง มีพญานาคที่อยู่ในถ้วยลอดช่อง, บ้านที่เลี้ยงเป็ดมีภาพพญานาคช่วยเลี้ยงเป็ดให้, บ้านที่นั่งสมาธิมีภาพพญานาคกับเณรน้อยนั่งสมาธิ เป็นต้น




บึงกาฬ คือจังหวัดที่ 77 ของไทย ห่างจากกรุงเทพฯ กว่า 800 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางมาหมู่บ้านเพื่อความสะดวกแนะนำตั้งการเดินทางจาก google maps มาได้เลย รับรองไม่มีหลง ใครมีโอกาสมาเที่ยวบึงกาฬ หรือจังหวัดใกล้เคียง อย่าลืมแวะมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตบึงกาฬ กันนะ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเลย
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
- หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ โทร 086 229 7626
- เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.