จากตระกูลหมอยาห้าแผ่นดินผู้สร้างตำนานยาหอมสุคนธโอสถ “ตราม้า”
ผ่านไปผ่านมาแถวถนนตะนาว บริเวณสี่แยกคอกวัวก็หลายครั้ง แต่ Sineha Bangkok ก็ยังไม่เคยมาเยือน บ้านยาหอม zantiis (Baan Ya Hom Zantiis) ซักที จนล่วงเลยมา 3 ปีที่ร้านเปิดพอดี ถึงได้มีโอกาสมาเยือน ส่วนหนึ่งเพราะ 3 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ในช่วงเผชิญโควิด พอมีโอกาสมา ก็เป็นปีที่ บ้านยาหอม ครบรอบ 100 ปีพอดี (2465-2566)
บ้านยาหอม zantiis เป็นบ้านไม้สักสไตล์โคโลเนียล สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465 สมัยรัชกาลที่ 6 เจ้าของบ้านคือต้นตระกูลบุณยะรัตเวช ซึ่งได้ชื่อเป็น ตระกูลหมอยาห้าแผ่นดิน เจ้าของตำรับยาหอมสุคนธโอสถ “ตราม้า” ยาหอมระดับตำนานของไทย ที่เลื่องชื่อในอดีต แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป การทำยาหอมซึ่งใช้สมุนไพรหลายชนิด เริ่มหายากขึ้นเรื่อย ๆ วัตถุดิบหลายชนิดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น อินเดีย จนในที่สุดก็ต้องเลิกราไป พร้อม ๆ กับที่บ้านหลังนี้ก็ถูกปิดตายไปในช่วงระยะเวลาถึง 20 ปี
คุณดลชัย บุณยะรัตเวช ผู้อยู่ในวงการสร้างสรรค์งานโฆษณา ครีเอทีฟ และนักสร้างแบรนด์แถวหน้าของเมืองไทยซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ห้า ผู้ได้รับบ้านหลังนี้เป็นมรดก และทำให้บ้านหลังนี้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ฟื้นฟูและตกแต่งใหม่ โดยรักษากลิ่นอายของเดิมหลาย ๆ อย่างเอาไว้ ชนิดที่เรียกว่าผ่านมุมไหนของบ้านก็ต้องมีเรื่องให้เล่าได้ทุกมุม เช่น น้ำพุที่อยู่ในส่วนของคาเฟ่ ซึ่งสมัยก่อนคือบ่อน้ำใช้ ก็นำปรับแต่งให้กลายเป็นน้ำพุ และใช้เครื่องดูดน้ำที่ยังคงไหลรินมาใช้ และต่อเติมเป็นห้องโซนคาเฟ่ มีทั้งพื้นที่นั่งรับประทานและมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องหอมภายใต้แบรนด์ สุคนธะ ที่ชื่อว่า Happy Herb Shop.
พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ใน บ้านยาหอม zantiis ก็ปรับส่วนมาใช้ได้ประโยชน์ทุกพื้นที่ ห้องรับแขกใหญ่ปรับเป็นพื้นที่รับประทานร้านอาหาร เด่นด้วยภาพวาดที่สะท้อนอดีตของบ้านหลังนี้ แอบกระซิบให้รู้กันทั่วเลยว่า เด็กน้อยในภาพที่ถูกจูงมืออยู่นั้น คือคุณดลชัย เจ้าของบ้าน เจ้าของร้านคนปัจจุบันนี้เอง
แนวคิดในการเปิดคาเฟ่และร้านอาหาร บ้านยาหอม นอกจากสถานที่ เรื่องอาหารและเครื่องดื่มก็ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน และเพื่อสร้างแตกต่างทั้งสูตรเครื่องดื่มและอาหารจานเด็ดหลายเมนู นอกจากมาจากความชอบส่วนตัว บวกกับตำรับอาหารไทยดั้งเดิม บางรายการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ยังเก๋ด้วยการใช้ยาหอมที่เป็นต้นกำเนิดของบ้านนี้เข้ามาเป็นส่วนผสมแบบหาทานที่อื่นไม่ได้
เหตุผลนอกจากเรื่องการสร้างความแตกต่าง คุณดลชัย ต้องการเสนออาหารไทยต้นตำรับที่ดีที่สุด โดยอาศัยประสบการณ์ที่คุ้นเคยกับอาหารไทยโบราณจากฝ่ายคุณย่าที่เป็นลูกขุนนางเก่าและมีความถนัดด้านการทำอาหารและขนมตำรับชาววังอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่เพิ่มเติมด้วยการผสมผสานกับตำรับสมุนไพรจากฝ่ายคุณปู่ ให้กลายเป็นอาหารไทยโบราณตำรับชาววังที่จัดจ้านด้วยสมุนไพรไม่เหมือนที่ไหน
เพิ่มเติมด้วยความชอบอาหารใต้เป็นการส่วนตัวของเจ้าบ้าน ที่ร้านก็เลยมีอาหารใต้แทรกเข้ามานำเสนออยู่หลายเมนู แต่กว่าจะได้ทานอาหาร เชื่อว่าสายถ่ายรูปคงเดินถ่ายรูปทั่วทั้งร้านแน่นอน เพราะแต่ละห้องถ่ายรูปสวยทุกมุม และทุกเทศกาลยังมีนักร้องหรือจะเป็นเจ้าของร้านมาเล่นเปียโนร้องเพลงให้แขกฟังอีกด้วย อะไรจะสวย และผู้ดีขนาดนี้ ^_^ ไม่เล่าแล้วดีกว่า ตาม Sineha Bangkok มาดูดีกว่าว่าเอาเมนูแนะนำอะไรมาฝากบ้าง
ต้มจิ๋วกระดูกอ่อน 180 บาท ขอให้คำนิยามว่าเป็นญาติของต้มยำ และน้องสาวต้มส้ม แต่จะมีผักสมุนไพรเป็นส่วนประกอบเยอะมาก ทั้งกะเพรา โหระพา พริกขี้หนู ทั้งหมดเป็นผักปลูกเอง ออร์แกนิคแน่นอน ที่ทำให้แปลกจากตระกูลต้มยำก็คือมีมันฝรั่งที่ให้ความหวาน เมนูนี่เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 5
หมูฮ้องอบเชย 180 บาท เข้มข้นด้วยสมุนไพร หมูนุ่ม อร่อยเข้าเนื้อ
ไข่พะโล้บ้านยาหอม 160 บาท สูตรของคุณหญิงมาลัยวัลย์ คุณแม่ของคุณดลชัย ซึ่งสูตรของที่นี่จะใส่อบเชยเยอะหน่อย แบบยกมาเสิร์ฟก็สัมผัสความเข้มข้นได้จากกลิ่นก่อนเลย
หมูผัดกะปิ 160 บาท เมนูนี้อร่อยถูกใจ Sineha Bangkok มากมีทั้งรสหวานและเค็มของกะปิ ครบรสและกลมกล่อม กินกับข้าวสวยร้อน ๆ คือดี ดูออกมั้ยว่าเป็นเมนูใต้แท้ๆ >_<
แกงคั่วปลากะพงใบชะพลู 250 บาท ใบชะพลูที่ร้านนี้ปลูกเองอีกแล้ว ไม่ค่อยเจอแกงคั่วใบชะพลูที่ใส่ปลากะพง ส่วนมากจะเป็น แกงปู ที่นี่ใช้ปลากะพงพุงอวบอร่อย
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา 120 บาท ใช้กะหล่ำปลีโครงการหลวง ที่จริงเป็นเมนูง่าย ๆ แต่หาอร่อยยากเหมือนกัน Sineha Bangkok คอนเฟิร์มให้ว่า ที่นี่อร่อยมาก หอมน้ำปลา ใส่กุ้งแห้งด้วย ต้องสั่งค่ะ
และอีกหลายเมนู ที่อร่อยแทบทุกเมนูจริง อาทิ ปีกไก่ทอดซอสมะขาม 220 บาท ให้ซอสเพิ่มรสชาติไก่ทอด, กุ้งผัดพริกขี้หนูสวน 250 บาท กุ้งสด ๆ และพริกขี้หนูสวนออร์แกนิค คนกินเผ็ดห้ามพลาดเมนูนี้, เห็ดทอดซอสยาหอม 120 บาท, เปาะเปี๊ยะม้วนกุ้ง ทอด 95 บาท เมนูนี้ดี สั่งได้เลย กินเพลินมาก หรือ ของหวานอย่างตะโก้โบราณ (เผือก, สาคูใบเตย,แปะก้วยวุ้นมะพร้าย) ถ้วยละ 45 บาท รสชาติกำลังดี กะทิสดแท้ ไม่หวานจัด
ในส่วนของเครื่องดื่ม จะมีความฟิวชั่นให้เข้ากับยุคสมัยที่ต้องถ่ายรูปสวย ไม่เหมือนเรื่องอาหารที่ต้องเป๊ะในรสชาติตำรับไทยแท้ เมนูเครื่องดื่มแนะนำก็มีทั้ง กาแฟโซดายาหอม 150 บาท, ชาไทยนมเย็นกับกาแฟ 150 บาท, กาแฟเอสเปรสโซ่บนนมวานิลลา 150 บาท หรือจะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรอย่าง ชาเสาวรสเย็น 150 บาท, น้ำยาอุทัยบนน้ำพีชเย็น 150 บาท หรือเครื่องดื่มยาหอมสมุนไพร เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ บ้านยาหอม Zantiis (ซานทิส) ยังไม่ได้เป็นแค่ คาเฟ่ มีช็อปขายของที่ระลึก อย่าง เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ ฯลฯ ในชื่อ Bangkok Treasures ที่คุณดลชัยออกแบบเอง, มี Zantiis เป็นแบรนด์น้ำหอมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Zantiis มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤต ศานติ ที่แปลว่าความสงบ สันติ, มี Sukonta แบรนด์สุคนธะ ต่อยอดความรู้ด้านการปรุงยาของร้านยาบุณยะรัตเวช ด้วยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรหลายชนิด มีน้ำมันหอมระเหย และผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือ ยาหอมสุคนธโอสถ(ตราม้า) สูตรปรับปรุงใหม่
ยังไม่หมดเท่านี้ ยังมีสปาอยู่บน ชั้น 2 ของบ้านในชื่อ บ้านยาหอมซานทิส นวดเพื่อสุขภาพ, มีห้องสัมมนาห้องประชุม ให้บริการ และ co-working space ก็มีบริการด้วย เพราะคุณดลชัยอยากให้ที่นี่เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของทุกรุ่นรวมถึงรุ่นใหม่ที่สามารถมาชื่นชมความเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความรื่นรมย์ของสถานที่ ยิ่งใครที่เน้นความเฮลตี้ต้องมาเช็กอินที่นี่ บ้านยาหอม Zantiis
บ้านยาหอม zantiis (Baan Ya Hom Zantiis)
- 156 ถนนตะนาว แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
- เวลาให้บริการ : 9.00 น. – 21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
- โทร : 095-764-2768
- Line : @004qjkad