ร้านอาหารสไตล์ Casual Fine Dining หนึ่งเดียวในซอยราชวินิตบางแก้ว
ร้านอาหารสไตล์ Casual Fine Dining ที่สามารถตอบโจทย์และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของนักชิมนักดื่มมีระดับยุคดิจิทัล ที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารในบรรยากาศสบาย ๆ มากขึ้น แต่ยังเน้นใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ปรุงโดยเชฟฝีมือดี สะอาด ปลอดภัย และอร่อย ในราคารับได้ Sineha Bangkok เลยต้องขอแนะนำ “โซกู๊ดกูร์เมท์” (Sooooo Goood Gourmet) ร้านที่ใช่กับคำว่าCasual Fine Dining ที่สุดตอนนี้
บอกได้เลยว่า Sooooo Goood Gourmet คือ ร้านอาหารสไตล์ Casual Fine Dining หนึ่งเดียวในซอยราชวินิตบางแก้ว ย่านบางนา ที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสในหมู่นักชิมสุด ๆ จากปากต่อปาก ถึงบรรยากาศสบาย ๆ ของร้านที่ Casual และคุณภาพ และรสชาติอาหารในแบบ Fine Dining ที่ตรงปกตรงคอนเซ็ปต์ทุกอย่าง
Sooooo Goood Gourmet ชื่อร้านที่มาพร้อมกับอักษรตัว “โอ O” 9 ตัว ที่มาสั้น ๆ ง่าย ๆ จากเจ้าของร้านคือ คุณจ้อ พัชรินทร์ เหมอังกูร ที่ชิมอาหารจากฝีมือ “เชฟเปเป้” (Jose Martin Ruiz Borja) อดีตเชฟใหญ่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เมนูไหนก็อดไม่ได้ที่จะบอกเชฟว่า Sooooo Goood แบบลากเสียงให้รู้ว่าโซกู๊ดดดดด จริง ๆ จนได้มาร่วมกันเปิดร้านจึงใช้ชื่อนี้ซะเลย และเพื่อบ่งบอกถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่จริงจังบนถนนสายอาหารอีกด้วย
คุณจ้อ เป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในการปรุงอาหารอย่าง กูร์เมท์ วัน แน่นอนว่าวัตถุดิบที่ใช้ในร้าน Sooooo Goood Gourmet ก็ล้วนแต่ใช้วัตถุดิบคุณภาพนำเข้าอย่างดี อย่าง เส้นพาสต้าก็ใช้ De Cecco แบรนด์คุณภาพอันดับ 1 ของอิตาลี ช็อกโกแลตจากแบรนด์ดังของฝรั่งเศสอย่าง Valrhona เนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมจากออสเตรเลีย แบรนด์เก่าแก่และมีชื่อเสียงอย่าง Westholme และ Stockyards ซี่โครงแกะจากแบรนด์ Ambassador
อาหารทุกจานของร้าน Sooooo Goood Gourmet อร่อยและได้คุณภาพมากเพราะวัตถุดิบดี ๆ พร้อมกรรมวิธีและสูตรลับที่พิถีพิถันจาก “เชฟเปเป้” ที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน-สเปน ในแบบเป็นกันเองและใส่ใจลูกค้าทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา Sineha Bangkok คอนเฟิร์มความอร่อยให้ก่อนเลยว่าดีมาก ตามมาดูเลยว่าวันนี้เอาเมนูไหนมาแนะนำบ้าง
Deep-Fried Blue Belly Shrimps (550 บาท) กุ้ง Blue Belly ตัวใสสีฟ้าต้องกินในช่วงฤดูกาลนี้ เชฟเอามาทอดกับน้ำมันมะกอกให้เปลือกกรอบโรยด้วยเกลือ กินได้ทั้งตัว กรอบอร่อยมาก มีdip 2 อย่างให้เลือก น้ำจิ้มซีฟู้ด และ dip สูตรพิเศษของเชฟ ที่ใช้น้ำมันมะกอกตีกับนมและกระเทียมจนเป็นครีมขาวฟู มีรสชาติเบานุ่มมีกลิ่นหอมละมุน dip กับกุ้งคือดีมาก
SG Garlic Shrimps (600 บาท) เป็นเมนูกุ้งผักกระเทียมกับซอสไวน์ขาว ใส่สมุนไพร เพิ่มพริกแห้งเพื่อความเผ็ดเล็กน้อย น้ำซอสหวานหอมมาก แนะนำให้นำขนมปังมาเช็ดซอสที่เหลือก้นจาน รับรองว่าอร่อยจนเกลี้ยงจาน
Spanish Octopus with Alioli (900 บาท) หนวดปลาหมึกยักษ์กับซอสอาริโอริ เชฟนำหนวดปลาหมึกไปตุ๋นจนเนื้อนุ่มละมุน ตั้งแต่ Sineha Bangkok เคยกินหนวดปลาหมึกยักษ์มา ยกให้ร้านนี้ที่หนึ่งเลย นุ่มสุด รสชาติดีสุด แนะนำว่าต้องลองค่ะ
Padron with Iberico Ham (950 บาท) พริกหวานสเปนกับไอเบอริโกแฮม เป็น Iberico Ham หรือแฮมหมูกีบดำ ทานคู่กับพริก Padron ซึ่งเป็นพริกนำเข้าจาก แคว้นกาลิเซีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือขอสเปน นำพริกไปทอดในน้ำมันมะกอกร้อน ๆ ให้ผิวนอกพอง โรยด้วยเกลือเล็กน้อยทานคู่กับแฮม
Assorted Croquettes (2 ชิ้น 150 บาท) มันฝรั่งบดผสมกับแฮมสับหรือปลากหมึกสบ แล้วนำไปทอดให้กรอบนอก เนื้อมันฝรั่งจะเนียนมาก
Rigatoni with Swimming Crabmeat (550 บาท) พาสต้าเนื้อปู โดยเนื้อปูที่ใช้เลือกเกรดพรีเมี่ยมที่เป็นปูทะเลตัวเมียที่ยังไม่เคยออกไข่ ซึ่งเนื้ออกจะแน่นกว่า อร่อยกว่า ส่วนเส้นพาสต้าใช้ของ De Cecco เป็นเส้นพาสต้าที่ดีที่สุด ส่วนซอสนั้นเป็นซอสกุ้ง เมนูนี้คนชอบกินเส้นไม่ควรพลาดเลย
Spaghetti Vongole (490 บาท) สปาเก็ตตี้หอยตลับ ใช้เส้นพาสต้าของ De Cecco เช่นกัน และเลือกใช้หอยตลับจากอาเจนติน่าและชิลี่ ผัดกับกระเทียมและไวน์ขาว หอมและเส้นเหนียวนุ่มมาก
Risotto with Hokkaido Scallops (650 บาท) รีซอตโต้หอยเชลล์ฮอกไกโด รีซอตโต้จะผัดกับเห็ดทรัฟเฟิลสด หอมและรสชาติเข้มข้นมาก เนื้อข้าวนุ่มกำลังดี
Paella with Wagyu Short Ribs (750 บาท) ข้าวผัดสเปนเนื้อซี่โครงวากิว เป็นซิกเนเจอร์ของเชฟที่ขายดีมาก ทีเด็ดอยู่ที่เนื้อซี่โครงที่เลือกใช้เกรด MB4-5 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุด นำไปตุ๋นจนเปื่อยจะได้กลิ่นเนื้อหอมมาก
Meats จานนี้เราสั่งมาลองหลาย ๆ อย่าง แต่ถ้ามาสั่งเอง แนะนำให้สั่งเป็นจาน ๆ แยกประเภททั้งเนื้อ แกะ ปลา หรือหมู
Grilled Wagyu Ribeye MB 4-5 (1,900 บาท) เนื้อวากิวริบอาย MB 4-5 ย่าง เนื้อทุกชิ้นของ กูร์เมท์ วัน จะผ่านกรรมวิธี เว็ท-เอจ (wet-aged) คือ การนำเนื้อไปหมักหรือบ่มเปียก ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกสูญญากาศที่อุณหภูมิศูนย์องศา เป็นเวลาประมาณ 45 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้เอนไซม์ (enzyme) ในเนื้อค่อย ๆ ทำงานย่อยเส้นใยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงให้นุ่มลง โดยไม่ทำให้เนื้อสูญเสียน้ำภายในเนื้อ ผลที่ได้ คือ เนื้อที่มีคุณภาพมากขึ้น สีสวยและนุ่ม มีรสชาติของเนื้อมากขึ้น ไม่แห้งเวลานำมาย่าง
Ambassador Lamb Chops (1,300 บาท) ซี่โครงแกะย่าง ใช้แกะพันธุ์เนื้อที่เนื้อนุ่มและไม่มีกลิ่นสาบ ผ่านกระบวนการ wet aged เพื่อให้น้ำนื้อชุ่มฉ่ำ ทานคู่กับ Ratatouille (ราตาตุย สตูว์ผักฝรั่งเศส) และมันบด
Seabass with Omega Mussels in Saffron Sauce (975 บาท) ปลากระพงและหอยแมลงภู่ซอสแซฟฟรอน เนื้อปลากะพงนำเข้าจากฝรั่งเศสเก็บแบบ Chill เพื่อให้เนื้อปลายังคงสภาพสด เลือกปลากะพงตัวเล็ก นน.ประมาณ 6 ขีดเนื้อจะแน่น นำมาทอดแบบหนังกรอบ Sineha Bangkok ยอมรับฝีมือเชฟจริง ๆ ทอดปลาได้หนังกรอบ แต่เนื้อปลายังนุ่มได้รสชาติมาก ๆ
เมนูขนมหวานที่แนะนำให้ลองคือ ชีสเค็กไหม้ (Burnt Cheesecake) สูตรพิเศษจากสเปนของเชฟเปเป้ และเค็กช็อคโกแลตเวโรน่า (Valrhona Chocolate Flourless Cake)
นึกถึงอาหารฝรั่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน + สเปน มาตรฐานความอร่อยระดับ 5 ดาว ปรุงโดยเชฟมืออาชีพ เสิร์ฟพร้อมไวน์ดีๆ ในบรรยากาศสบายๆ ราคาไม่แพง รับประทานได้ทั้งครอบครัว ให้แวะมาที่ Sooooo Goood Gourmet
“โซกู๊ดกูร์เมท์” Sooooo Goood Gourmet
23/31 ซอยราชวินิตบางแก้ว ถนนบางนา–ตราด กม.7
เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 22.00 น.
FB: https://www.facebook.com/sooooogooodgourmet
Line: @sggourmet
Tel: 063-272-3344