คิดถึงความอร่อย ประทับใจจนต้องกลับมาซ้ำ

กลับมากิน “บ้านนอกเข้ากรุง” อีกครั้ง หลังจากร้านนี้คว้ารางวัล Michelin Guide ติดกันสองปีซ้อน ตั้งแต่เปิดมาเพียงปีกว่า ๆ ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่คือความตั้งใจที่ชัดเจน และรสชาติที่ “จริงใจ” จนสัมผัสได้ทุกคำ ร้านที่บอกเล่าความทรงจำผ่านอาหารของ คุณ”จอม” อดีต Head Butler จาก St. Regis New York ที่กลับมาเปิดร้านเล็ก ๆ ในซอยหลังสวน เพื่อทำอาหารที่รสชาติแบบ “แม่ทำ” ให้ทุกคนได้กิน

แม่ของคุณจอมเติบโตมากับครอบครัวใหญ่ในโคราช อาหารทุกจานจึงเปี่ยมไปด้วยสูตรโบราณและความใส่ใจ ไม่ใช่แค่รสชาติถูกปาก แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตบ้านนอกที่อบอุ่นและมีคุณค่าทางใจ ครั้งนี้ Sineha Bangkok กลับมาชิมเมนูใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลอง และบอกเลยว่าแต่ละจานคือจิ๊กซอว์ที่ทำให้ภาพ “บ้านนอกเข้ากรุง” สมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น (ดูรีวิวก่อนหน้าได้ที่ ชวนกินข้าวนอกบ้านที่ “บ้านนอกเข้ากรุง” )

เริ่มที่ “ยำข้าวทอดแหนมตลาดโคกรวด” (420 บาท) – จานนี้รสเปรี้ยวเค็มกำลังดี ข้าวทอดกรอบนอกนุ่มในคลุกกับแหนมรสกลมกล่อม มีทั้งความเข้มข้นและความสดชื่นในจานเดียว

“ตำโคราช” (220 บาท) – ไม่ใช่ส้มตำแบบอีสานทั่วไป แต่คือตำปลาร้ากลิ่นหอมเฉพาะตัว เผ็ดแต่อร่อย ใครชิมก็ติดใจไปตาม ๆ กัน

“หมูสามชั้นทอดน้ำปลา” (220 บาท) – เมนูเรียบง่ายที่ทำออกมาได้เป๊ะ หนังกรอบ เนื้อไม่แห้ง ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือฟินแบบบ้าน ๆ

“ผัดหมี่โคราช” ใส่กุ้งแม่น้ำไซซ์ L (1,200 บาท) – เมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง เส้นหมี่แบบโบราณไม่แช่น้ำ นำมาผัดกับพริกแกง เต้าเจี้ยว และน้ำตาลปี๊บ ผัดแบบแห้งแต่เข้มข้นทุกเส้น กุ้งสดตัวใหญ่ย่างหอม ๆ เข้ากันแบบพอดี

“ไข่พะโล้ยายสำเรียง” (300 บาท) – เมนู comfort food ที่หอมอบเชยและเครื่องเทศ น้ำพะโล้เข้มข้นแต่ไม่หวานเกินไป ไข่เปื่อยเข้าเนื้อ หมูสามชั้นนุ่มละลาย


“ขนมจีนน้ำพริกบ้านระงม” (320 บาท) และ “ขนมจีนบ้านสีจาน” (320 บาท) – สองจานขนมจีนที่ใส่ใจทั้งน้ำซอสและเครื่องเคียง ตัวน้ำพริกหอมมันกะทิ เข้มข้นแต่ละมุน น้ำยาสีจานเน้นเครื่องแกงแบบบ้าน ๆ หอมและจัดจ้านพอดี

“กุ้งเผาน้ำปลาหวาน” – เมนูหน้าตาดี รสชาติไม่แพ้ หน้าตาเหมือนจะหนัก แต่กินจริงแล้วกลมกล่อม น้ำปลาหวานละมุน ผักตามฤดูกาล ถ้าหมดหน้าสะเดา ก็จะเสิร์ฟผักชี หรือผักอื่นแทน

“น้ำพริกขี้กาผักต้ม” (420 บาท) – รสชาติจัดจ้านแบบบ้าน ๆ ผักแน่น ๆ กินแล้วได้สุขภาพ น้ำพริกนี้กินกับอะไรก็อร่อย

“แกงเลียงขามทะเลสอ” (380 บาท) – น้ำแกงร้อน ๆ หอมขิงหอมกระชาย เต็มไปด้วยผักและกุ้งสด ๆ ซดคล่องคอสุด ๆ

“ข้าวแช่นอกฤดู” (450 บาท) – ใครว่าเมนูนี้กินได้แค่หน้าร้อน? ที่นี่เสิร์ฟตลอดเพราะข้าวแช่คือรสชาติของบ้านที่ไม่จำกัดฤดู น้ำลอยหอมกลิ่นดอกไม้ เครื่องเคียงประณีตทุกชิ้น
ของหวานห้ามพลาด! อิ่มคาวแล้วต้องต่อหวานให้ครบสูตร ซึ่ง “บ้านนอกเข้ากรุง” ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
บวชถั่วดำหวานเย็นมะพร้าว (160 บาท) – คลาสสิกแต่ดีมาก ไอศกรีมเนื้อเนียน ท็อปบนถั่วดำต้มในน้ำกะทิหวานมันพอดี เย็นสดชื่นและหอมกลิ่นมะพร้าวแท้
ไอศกรีมทำสดรสเกลือคาราเมล (180 บาท) – ทวิสต์เล็ก ๆ ที่ลงตัว ไอศกรีมวานิลลาหวานกำลังดี ราดซอสคาราเมลเข้มข้นมีรสเข้มจากเกลือนิด ๆ ปิดด้วยป๊อปคอร์นเคี้ยวเพลิน
ไอศกรีมทำสดรสกล้วยบวดชี (160 บาท) – กลิ่นหอมเฉพาะของกล้วย ที่กินคำแรกก็ได้รสชาติกล้วย แปลดแต่อร่อยดี เสิร์ฟคู่มากับทองม้วน
ขนมโค (140 บาท) – เมนูไทย ๆ ที่ละมุนเกินคาด แป้งหนึบ ไส้หอม น้ำกะทิหวานมัน โรยงาอุ่น ๆ และดอกอัญชันสด อร่อยถูกปากมาก

“บ้านนอกเข้ากรุง” ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่คือ “บ้านที่ทำอาหารให้เรากิน” ทุกรายละเอียดสะท้อนรากเหง้า วิถีชีวิต และความตั้งใจแบบบ้าน ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวอยู่บ้านญาติที่เรารัก



ใครยังไม่เคยไป… ตามรอยมิชลินไกด์ได้เลยที่ “บ้านนอกเข้ากรุง” ตึก Vivre ชั้น 2 ซอยหลังสวน โทร. 0-2077-6384 รับประกันความสุขอิ่มเปรม ของแทร่!!