ชมหาดบ้านกรูด สักการะเจดีย์ภักดีประกาศ แวะชิมน้ำมะพร้าวนกคุ่มที่สวนลุงบูรณ์
Sineha Bangkok ชวนล่องใต้แบบไม่ไกล เที่ยวสบาย ๆ ปักหมุดจุดหมาย เที่ยวทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กัน เปิดปฏิทิน หาวันลาเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน สบาย ๆ เปลี่ยนจุดหมายให้ไกลขึ้นอีกหน่อย เพราะเวลาจะเที่ยว 3 วัน 2 คืนทีไร หนีไม่พ้น หัวหิน พัทยา ทุกที คราวนี้ เลยขอชวนมาเที่ยวทับสะแก กันดีกว่า
ทำไมต้องมาเที่ยวทับสะแก ? ทับสะแกมีดีอะไร ? เอาจริง ๆ 2 ที่ที่ทำให้ Sineha Bangkok อยากมาเที่ยวทับสะแกเลยคือ พระมหาเจดีย์ภักดีประกาศ ที่เห็นแล้วอยากมากราบสักการะสักครั้ง แต่ยังไม่ได้มาซะทีเพราะยังไม่มีห้องพักถูกใจเข้าตา จนมาเห็นคลิปห้องพัก Beach Front Pool Villa ที่Sunshine Paradise Resort นี่แหละ ที่ทำให้จัดทริปมาเที่ยวที่นี่จนได้^^
ชวนเพื่อนได้วันก็จองโรงแรมก่อนเลยสิคะ จะรออะไร ^^ Sunshine Paradise Resort ตั้งอยู่ในเขตอำเภอทับสะแกซึ่งห่างจากหาดบ้านกรูดเพียง 5 นาที ตัวรีสอร์ตอยู่บน ชายหาดร่ำร่า ที่มีความเงียบสงบเหมาะแกการพักผ่อน แต่ก็มีกิจกรรมให้ลูกค้าที่มาพักที่นี่เช่นกันนะ ทั้ง ปั่นจักรยาน พายเรือคายัก ห้องฟิตเนตสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ฯลฯ ไม่ต้องกลัวเบื่อเลย
ห้องพักที่ Sunshine Paradise Resort มีให้เลือกทั้ง Standard room, Garden Cottage และ Beach front pool villa เราเลือกพักห้อง 2 Bedroom Beachfront Pool Villa ที่มีขนาดกว้างมากถึง220 ตร.ม. สำหรับ 4 คน 2 ห้องนอน ชอบห้องแบบนี้ที่มีทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัว และติดทะเลเดินลงน้ำได้เลย แถมน่าจะเป็นรีสอร์ตเดียวที่สามารถขับรถมาจอดหน้าวิลล่าได้เลยแบบไม่ต้องขนกระเป๋ายกขึ้นลงหลาย ๆ รอบ อันนี้สะดวกมาก ไม่เคยเจอที่ไหนเลยนะ
Beachfront Pool Villa มีอะไรให้บ้าง มีส่วน living ครัวสระว่ายน้ำส่วนตัว มีโซฟาเบดและ ทีวีจอแบน โต๊ะทานข้าว อาบน้ำมีหลังคาโปร่งแสงให้มองดาว อ่างจากุชชี่ เห็นวิวทะเลจากห้องน้ำ อะเมนนิตี้ในห้องน้ำครบครัน เครื่องดื่มในตู้เย็นบริการฟรี
ห้องอาหารของรีสอร์ตก็โอเคเลยนะ ใครขี้เกียจหาที่กินข้างนอก นอกจากอาหารเช้า อาหารเย็นก็แนะนำเลยจ้า บาร์บีคิวที่ให้ฟรีคนละ 1 ไม้คืออร่อยมาก แนะนำให้สั่งเพิ่มล่วงหน้าเลยจ้า ลืมบอกว่า welcome drink ของที่นี่เสิร์ฟน้ำมะพร้าวสีทอง หอมชื่นใจมากเธอ ตามมาเที่ยวกัน ทริปนี้ไปไหนบ้างตาม Sineha Bangkok มาเลยจ้า
ชุมชนนวัตวิถีบ้านทางสาย ที่ไม่ไกลจากรีสอร์ต ขับรถมาประมาณ 5-10 นาทีบ้านทางสายเป็นหมู่บ้านท่องเทียวชุมชนนวัตวิถี หรือ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่ชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำที่พักแนวโฮมสเตย์ริมทะเล เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนและสัมผัสวิถีชีวิตในท้องถิ่น เรียนรู้วัฒนธรรมชุมชน มีห้องพักไม้ไผ่และห้องอาบน้ำใต้ทิวสน ชมดาวตอนกลางคืน ในราคาคนละ 700 บาทต่อคืน ที่รวมอาหารเช้าและบุฟเฟต์ทะเลเผามื้อเย็น
มีกิจกรรมให้เลือกหลายอย่าง ทั้ง ทำอาหาร ย้อมผ้า ลงเล ลากอวน ตักบาตรริมหาด ทำสบู่ไร้สาร อุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุทชน เป็นต้น โดยชาวบ้านจะเน้นทั้ง การลดขยะ หรือการนำกับมาใช้ซ้ำสร้างวินัยให้ชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ หรือทัวร์ดำน้ำเที่ยวเกาะก็มีให้บริการเช่นกัน สนใจชุมชนนวัตวิถีบ้านทางสาย ติดต่อเบอร์โทร : 0923940556 หรือ Facebook : ท่องเทียวชุมชน-นวัตวิถี บ้านทางสาย ได้เลย
ออกจากชุมชนนวัตวิถีบ้านทางสาย เราแวะเติมคาเฟอีนช่วงเช้ากันที่ คาเฟ่น่านั่งสไตล์เกาหลี ที่ Pisces Café คาเฟ่โครตน่ารักริมทะเลบ้านกรูดที่มาแล้วนึกว่าอยู่คาเฟ่ที่เมืองเจจู หรือปูซานในเกาหลีซะอีก บรรยากาศดีมากค่าทุกคน แนะนำให้แวะเลยใครมาเที่ยว ที่สำคัญไม่ได้ดีแค่ร้านสวย แต่ใช้กาแฟดี เบเกอรี่อร่อยแทบทุกตัวจริง ๆ Sineha Bangkok แนะนำอย่างแรงค่า ^^
เติมคาเฟอีนแล้วไปต่อกันที่ที่ทำให้เราเกิดทริปนี้กันเลยค่ะ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดทางสาย บนยอดเขาธงชัย ในอำเภอบางสะพาน ใกล้กับหาดบ้านกรูด ก่อนขึ้นไปสักการะ อย่าลืมแวะกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับ พระครูเมตตาปุญโญภาส (ไมตรี ฐิตปญฺโญ) ท่านเจ้าอาวาสเพื่อเป็นสิริมงคลที่วัดตรงทางขึ้นด้านล่างก่อนนะ ท่านใจดี คุยสนุกมาก และไหว้พระสามแผ่นดิน ได้แก่ ไทย จีน และพม่า ได้ที่นี่เช่นกัน
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ซึ่งในครั้งนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี นายช่างสถาปนิกประจำสำนักพระราชวังเป็นผู้ออกแบบ จึงทำให้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศมีสถาปัตยกรรมไทยแบบกรุงรัตนโกสินทร์อันวิจิตรงดงาม ยังเป็นต้นแบบฉบับการออกแบบของพระเมรุมาศในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย มาเที่ยวชมความงดงามของพระเจดีย์ ก็ได้มีโอกาสสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธกิติสิริชัยซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองขนาดใหญ่เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย
ออกจากวัดแล้วมุ่งตรงไป สวนมะพร้างลุงบูรณ์ โดยโทรจองมื้ออาหารเที่ยงที่นี่ไว้ด้วย อยากกินอาหารเที่ยงที่นี่ต้องโทรจองล่วงหน้านะ (เบอร์โทร 064 939 6524) และจะบอกว่าฝีมือทำอาหารของลุงบูรณ์ไม่ธรรมดาเลย อร่อยจริง พอกินข้าวเสร็จแกก็เริ่มเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของสวนมะพร้าว ที่เริ่มต้นจากทำสวนในแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 เล่าไปด้วยใบอาบรอยยิ้มของความภาคภูมิใจพร้อมสอย มะพร้าวนกคุ่ม ที่มีที่ทับสะแกที่เดียวมาให้ชิมน้ำ ซึ่งไม่ได้หวานเจี๊ยบจนขึ้นตา แต่หวานนิด ๆ กำลังดีเอาไปชงใส่กาแฟ ยิ่งอร่อยถูกใจ ก่อนออกมาพวกเราก็อุดหนุนผลิตภัณฑ์ในร้านที่แกขายอย่าง น้ำตาลมะพร้าว และต้นมะพร้าวมาอีกหอบใหญ่ ^^
ช่วงบ่ายมีคนแนะนำให้แวะ คาเฟ่น่านั่งอีกที่คือ KA-NUM Home Café & Hartmade Bakery อ่านว่า ขนำ อีกหนึ่งคาเฟ่ ที่บอกเลยว่า สายคาเฟ่ สายเกาฯ ต้องตกหลุมรัก คาเฟ่ทรงบ้านหลังเล็ก มินิมอล ริมทะเล ที่น่าจะเป็น คาเฟ่ลับได้เลย สวยตาแตกมากกก เหมือนมีมุมริมหาดเป็นของตัวเอง เล่าไม่ถูกดูรูปแล้วกันว่าสวยแค่ไหน ส่วนกาแฟและเบเกอรี่ ตามคอนเซ็ปต์ที่ร้านบอกเลย ทำด้วยใจ อะไรก็ดีทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อว่าทับสะแกจะมีคาเฟ่ดี ๆ สวย ๆ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
ก่อนที่เราจะขับรถไปออกไปแวะถ่ายรูปกราฟฟิตี้ สะพานเก่าแก่ ตรงหาดทับสะแก แวะไหว้พระที่วัดทุ่งประดู่เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนไปผูกท้องมื้อเย็นที่ Sunshine Paradise Resort เหมือนเดิม ส่วนพรุ่งนี้ตื่นสาย ๆ แล้วค่อย เช็กเอ้าท์เดินทางกลับกรุงเทพฯ กัน ส่วนใครอยากมาเที่ยวทับสะแก หรือแวะนอนหนึ่งคืนก่อนล่องใต้ Sineha Bangkok แนะนำ Sunshine Paradise Resort เลยค่าที่พักดีจนอยากบอกต่อสอบถามได้ที่ +66 81 829 8123 หรือ Facebook : sunshineparadisethailand