เปิดโลกแห่งความงดงามทางวัฒนธรรมของภูฏาน จากเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี
สภาการท่องเที่ยวภูฏานได้ประกาศแจ้งถึงปฏิทินเทศกาลแห่งชาติประจำปี ภายใต้สโลแกน‘Believe’ ซึ่งตลอดทั้งปี ประเทศภูฏาน มีเทศกาลที่น่าสนใจถึง 7 เทศกาล แสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยแห่งวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของภูฏาน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงศิลปะการต่อสู้ กิจกรรมดูนก การจัดแสดงพฤกษศาสตร์ การเต้นรำหน้ากากศักดิ์สิทธิ์ และการจัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และงานฝีมือ รอต้อนรับการมาเยือนของนักเดินทาง ภายใต้สโลแกน“Believe”
เทศกาลแรกของปี คือ Punakha Dromche จัดขึ้น ณ ลานกว้างในบริเวณป้อมปราการ Punakha Dzong ในเมือง Punakha (เมืองหลวงเก่าของภูฏาน) ตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 18 กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ดอก Jacaranda หรือดอกศรีตรังเริ่มเบ่งบาน และเป็นเทศกาลเดียวในประเทศที่จำลองเหตุการณ์การต่อสู้กับกองทัพทิเบตในช่วงศตวรรษที่ 17 ได้อย่างน่าทึ่ง โดยจะมี ‘pazaps’ คือทหารอาสาในท้องถิ่นแต่งกายด้วยเครื่องราชกกุธภัณฑ์การต่อสู้แบบดั้งเดิมในสมัยนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีกองกำลังติดอาวุธใด ๆ มีเพียง ‘tshochen’ หรือกองกำลังพลจากหมู่บ้านใหญ่แปดแห่งจากเมืองทิมพูและพูนาคาออกมาสู้รบและขับไล่กองกำลังทิเบตที่บุกรุกเข้ามาเพื่อแย่งชิงพระธาตุรังจุง คารสะปะนี
หลังจากนั้นจะมีการสาธิต ‘โนบุชูชานี’ (norbu chushani) คือการนำพระธาตุไปแช่ในแม่น้ำโมจู เพื่อตบตาผู้รุกรานชาวทิเบต กล่าวกันว่า Zhabdrung Rinpoche ผู้รวมอนาจักรภูฏานในศตวรรษที่ 17 ได้ทิ้งสิ่งที่เสมือนพระธาตุเป็นตัวล่อลงในแม่น้ำ การสาธิตริมแม่น้ำนี้จะมีผู้คนหลายร้อยคนมารวมตัวกันในป้อมปราการ และในวันสุดท้ายของเทศกาล Punakha Dromche จะมีการลากชามทองแดงขนาดใหญ่ที่ลงจารึกด้วยพระคัมภีร์ไปที่ใจกลางลาน ในชามบรรจุด้วยเหล้าจนเต็มซึ่งจากนั้นจะนำไปอวยพรและแจกจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานเทศกาล
ถัดมาจะเป็นเทศกาล Punakha Tshechu ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสามวันที่ลานของ Punakha Dzong เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 21 กุมภาพันธ์ของทุกปี เทศกาล Punakha Tshechu จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อ รินโปเช (Guru Rinpoche) ปรมาจารย์พุทธตันตระ (หรือมหายานตันตระ) เป็นหนึ่งใน Tshechus ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศ โดยจะมีการเต้นรำหน้ากากหรือ ‘cham’ และการเต้นรำพื้นบ้านของชาวภูฏานแบบดั้งเดิม ผู้คนที่มาร่วมงานจะแต่งกายสวยงาม อีกทั้งยังนำอาหารกลางวันมาปิกนิก นั่งรับประทานและชมเทศกาลไปกับสมาชิกในครอบครัวไปด้วย
สำหรับเดือนมีนาคม จะมีเทศกาล Paro Tshechu จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 ถึง 25 ณ รินปุง ซอง (Rinpung Dzong) ที่แปลว่า “ปราการกองแก้วมณี” เป็นอารามกึ่งปราการอันสวยงามในเมือง Paro เทศกาลนี้มีการเต้นรำสวมหน้ากากและการเต้นรำพื้นบ้านของชาวภูฏานซึ่งแสดงโดยพระภิกษุและชาวบ้าน ไฮไลท์หลักของเทศกาลคือการคลี่ผ้าปักรูปของท่านรินโปเช (หรือ Throngdrel) ขนาดมหึมาในวันสุดท้าย ซึ่งบรรยายถึงการปรากฏองค์ทั้งแปดครั้งของท่าน โดยขนาดของผ้าปักนี้จะครอบคลุมทั้งกำแพงซึ่งมีความสูงเท่าตึกสามชั้น และจะมีผู้คนจำนวนมากเข้าคิวเพื่อชื่นชมและขอพรจาก Throngdrel ทุกปี
เดือนเมษายน ระหว่างวันที่ 13-14 จะมีเทศกาล Rhododendron (กุหลาบพันปี) จัดขึ้น ที่อุทยานหลวงพฤษศาสตร์ (Royal Botanical Park) แห่งเมือง Lamperi ซึ่งอยู่ห่างจากทิมพูประมาณ 35 กม. เทศกาล 2 วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ และอวดโฉมกุหลาบพันปีหลากสายพันธุ์ภายในอุทยานที่บานสะพรั่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร วัตถุประสงค์หลักของเทศกาล Rhododendron คือการเฉลิมฉลองพืชพรรณ วัฒนธรรม อาหารอันอุดมสมบูรณ์ของภูฏาน และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เทศกาลนกกระเรียนคอดำประจำปีจัดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายนในหุบเขา Gangtey ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถยนตร์จากทิมพูไม่ถึงสี่ชั่วโมง เทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองการกลับมาภูฏานของนกกระเรียนคอดำ ที่บินมาจากทิเบต จีน และอรุณาจัลประเทศ (อินเดีย) มาอาศัยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาว ผู้ร่วมเทศกาลจะมีโอกาสพิเศษได้ชมนกที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้อย่างใกล้ชิด และยังจะได้รับชมการเต้นรำสวมหน้ากาก เช่น Drametse Ngachham (เต้นและตีกลองไปด้วย) Pachham (การเต้นรำของวีรบุรุษ) และ Zhana Ngachham (ระบำหมวกดำ) ในเทศกาลนี้ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยนักเรียน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อนกกระเรียนคอดำทั่วโลกที่เสี่ยงกับการใกล้จะสูญพันธ์
อีกหนึ่งเทศกาลดูนกประจำปีของภูฏาน จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 15 พฤศจิกายนที่ Tingtibi ในเขต Zhemgang ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของภูฏาน ใช้เวลาขับรถประมาณ 6 ชั่วโมงจากทิมพู ที่นี่เป็นที่อยู่ของนกมากกว่า 500 สายพันธุ์ รวมถึงนกอินทรีทะเลหัวนวล (Pallas’s Fish Eagle), ไก่ฟ้าเขาแดง (Satyr Tragopan), นกเงือกคอแดง (Rufous-necked Hornbill), นกจู๋เต้นลายจุด (Spotted Elachura), นกกระเบื้องผา (Blue-capped Rock Thrush), นกคัคคูมรกต (Emerald Cuckoo), นกไต่ไม้ (Nuthatch) และนกกระสาท้องขาว (White-bellied Heron) ที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างยิ่ง
ถัดจากเทศกาลดูนก จะมีเทศกาล Druk Wangyel Tshechu ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคมของทุกปี ที่ Dochula Pass ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองทิมพูเพียง 45 นาทีทางรถยนต์ ท่ามกลางฉากหลังอันน่างดงามอย่างน่าทึ่งของเทือกเขาหิมาลัย มีการเต้นรำอันศักดิ์สิทธิ์มากมายในเทศกาลนี้ เพื่อบอกเล่าถึงความกล้าหาญและความเสียสละของกองทัพหลวงภูฏาน เทศกาลนี้มีการเต้นรำหน้ากากและการเต้นรำพื้นบ้านของชาวภูฏาน ในช่วงเทศกาลจะมีการเต้นรำอันเป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง รวมถึง Gadpo และ Ganmo ถือเป็นเต้นรำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งในเทศกาลนี้ เป็นการเต้นรำของชายและหญิงสูงอายุ การเต้นรำของวีรบุรุษ และการเต้นรำของเทพผู้พิทักษ์ ซึ่งจัดแสดงเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้พิทักษ์หลักเทพแห่งธรรม
สามารถศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศภูฏานได้ที่เว็บไซต์ https://bhutan.travel/ และติดตามข่าวสารอีกมากมายได้ที่ Facebook และ Instagram ของกรมการท่องที่ยวแห่งประเทศภูฏาน