เสิร์ฟประสบการณ์การเดินทางผ่านรสชาติ ด้วยคอร์สเมนูสุดพิเศษในราคาที่จับต้องได้
วันนี้ Sineha Bangkok พามาเปิดประสบการณ์กับโอมากาเสะพรีเมียมสไตล์เอโดะแท้ ๆ (Edo Mae Style) ที่เพิ่งเปิดใหม่หมาด ๆ ย่านอารีย์ที่ร้าน Sushi Koge ร้านโอมากาเสะ ที่โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ “Signature omakase to reach a new level of culinary journey.” นำเสนอ โอมากาเสะในฝัน ที่ราคาจับต้องได้ ผ่านคอร์สเมนู ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศส่งตรงจากแหล่งที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
Sushi Koge เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นยอดของญี่ปุ่น จากแหล่งที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาลมาใช้ในร้าน หรืออย่างข้าวที่ใช้ ก็คัดเลือกจากแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น นำมาหุงด้วยน้ำแร่ พิถีพิถันทุกขั้นตอนตั้งแต่เลือกวัตถุดิบกันเลย ส่วนคอร์สเมนูก็ได้เชฟคนไทย ที่มีประสบการณ์ ทำงาน มากว่า 15 ปี รวมถึงเคยเป็นเชฟที่โตเกียว และเคยทำงานในร้านอาหารชื่อดังอย่างร้าน Morimoto อีกด้วย Sineha Bangkok รับรองเลยว่า ฝีมือเชฟไม่ธรรมดาจริง ๆ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Sushi Koge ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากร้านโอมากาเสะอื่น ๆ คือ ทางร้านใช้วิธีร้อยเรียงรสชาติของเมนูทุกคำและออกแบบบรรยากาศของร้าน ตามปรัชญามูซาซิ หรือคัมภีร์ 5 ห่วง ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่างเปล่า ซึ่งเป็นหลักพื้นฐาน แห่งความสมบูรณ์ ที่สืบทอดมานานหลายศตวรรษ นำเสนอภายใต้คอนเซปต์ “Touch the nature Through the taste of season” ที่สะท้อนผ่านทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าในร้าน ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
Sineha Bangkok ชอบคอนเซ็ปต์มาก Mood and Tone ของร้านก็สบายตาในแบบเซนด้วย เป๊ะอย่างที่พนักงานบอกเลย เหมือนนั่งอยู่ในบ้านขุนนางญี่ปุ่นสมัยเอโดะ ที่สงบนิ่ง และอบอุ่นตามวิถีแห่งเซน ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุจากไม้ และหิน มีการออกแบบแสง ให้แต่ละพื้นที่สว่างไม่เท่ากัน แต่ในขณะเดียวกันเรื่องแสงก็ทำได้เป็นอย่างดีเหมาะให้สามารถถ่ายรูปอาหารได้อย่างชัดเจน พร้อมให้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านอาหารอวดสายทุกสายตาบนโลกโซเชียลมีเดียเลย
มาดูกันว่า คอร์ส 15 คำมีอะไรมาเสิร์ฟบ้าง แต่ก่อนเริ่มคอร์ส เชฟจะเสิร์ฟ Yuzu shorbet เป็นcomplimentary เมนูและเป็นตัวเปิดรับรสก่อนเริ่มคอร์ส
Jyunsai To Tomato มะเขือเทศบิจินดองสูตรพิเศษทานคู่กับ Junsai หรือยอดอ่อนบัวญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกสดชื่นก่อนเริ่มคอร์สอาหารJyunsai จะมาจาก 3 จังหวัด ได้แก่ Aomori, Akita และ Yamagata ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในแต่ละรอบการส่งญี่ปุ่นว่าจะได้จากจังหวัดไหน ส่วนมะเขือเทศบิจินหรือมะเขือราชินีก็จะเป็นสายพันธุ์จากญี่ปุ่นที่นำมาเพาะปลูกที่ประเทศไทยได้แก่ จังหวัดเชียงราย และเพชรบูรณ์
Sashimi of the day : ปลาบุรี ปลาตามฤดูกาลที่ผ่านการคัดสรรค์คุณภาพจากเชฟ พร้อมเสิร์ฟเป็นซาชิมิ ซึ่งจะเป็นวัตุดิบที่ดีของวัตถุดิบตามรอบนั้น ๆ และมีความพิเศษ ในเรื่องซอสที่สามารถทานคู่กับปลา จะมีอยู่ 2 ซอส คือ มิโสะซอสและโชยุ สูตรพิเศษจากทางร้านที่ไม่เหมือนใคร
KushiYaki เสิร์ฟแบบเสียบไม้ มา 3 อย่างบนเตาแบบญี่ปุ่น
Chawanmushi ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่ม ที่เสิร์ฟคู่กับเนื้อปู Zuwai จาก Hokkaido และราดด้วยซอส Ankake สูตรพิเศษจากทางร้าน Sushi Koge
Hotate Isobe Maki (Scallop) หอยเซลล์คัดพิเศษจาก Hokkaido นำมาย่างให้มีความหอมและห่อด้วยสาหร่ายย่างเพื่อเพิ่มความหอมและเสิร์ฟคู่กับ มัสตาร์ดบดญี่ปุ่นและงาสามสีเพื่อชูรสชาติ
Aori Ika (Squid) ปลาหมึกหอมญี่ปุ่น จากจังหวัด Mie มีเนื้อที่รสชาติหวานนุ่ม ท็อปด้วยผิวส้มยูซุเพื่อเพิ่มอโรม่า
Ebi Karage (Sweet Shrimp) กุ้งหวานญี่ปุ่นจาก Hokkaido เนื้อสัมผัสเด้ง ความหวานละมุน
Madai ปลามาได จากเมืองมิเอะ สดทุกคำจริง ๆ
Aji (Jack Mackerel) จากจังหวัด Nagasaki ปลาทูญี่ปุ่น เป็นปลาหนังเงินชนิดหนึ่ง ที่มีรสชาติเข็มข้น และ หอมมัน อย่างลงตัว
Kindamei ปลากะพงแดงตาสีทอง เป็นปลารสชาติอร่อยที่สุดจากเมืองชิบะ หมักด้วยเกลือ ลวกน้ำร้อน
Akami Honmaguro ส่วนมากจะมาจาก 2 เมืองหลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมรับประทาน คือ Nagasaki และ Mie คำนี้เชฟจะเสิร์ฟเป็น Akami จะเป็นทูน่าส่วนเนื้อแดงที่ผ่านการ aged ประมาณ 1 สัปดาห์ และทำการ Zuke กับโชยุ ก่อนเสิร์ฟให้กับลูกค้าเพี่อให้ได้รสสัมผัสที่เข้มข้น
Minidon จานนี้มีทั้ง ปลาทูน่า ปลากิมมิได และไข่ปลาแซลมอน อร่อยมาก
Soup Miso ซุปมิโสะสูตรพิเศษ รสชาติกล่มกล่อม
Tamago Yaki ไข่หวานย่างสไตล์ญี่ปุ่น มีรสชาติที่หวานละมุน ไม่เหมือนใคร สูตรลับเฉพาะของทางร้าน Sushi Koge
Ice Cream ไอศกรีมวานิลลาเสิร์ฟคู่ กับเครื่องเคียง 3 อย่าง ได้แก่ Mochi, Warabi mochi และถั่วแดงกวน ให้ความรู้สึกสดชื่น สไตล์ญี่ปุ่น
ไม่ต้องรอเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ อยากกิน โอมากาเสะพรีเมียมสไตล์เอโดะแท้ ๆ แค่แวะมาที่ ร้าน Sushi Koge ตั้งอยู่ชั้น B วานิชวิลเลจ อารีย์ (Vanit Village Aree) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) โดยให้บริการเป็นรอบเวลาดังนี้ 12.00/13.30/18.00/19.30 แต่ละรอบ ใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชม. ** จำกัด 12 ที่นั่งต่อรอบ **
โปรโมชั่นพิเศษ ต้อนรับฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ด้วยผลผลิตจากภูมิภาคคันไซและคิวซู พร้อมราคาสุดพิเศษ Koge Omakase Course 15 Course ราคา 2200++ บาทจากราคา 2,900 บาท Nigiri Omakase 19 course ราคา 3,300++ บาท จากราคา 3,500 บาท และ Premium Omakase 20 Course ราคา 3,500 ++ บาท จากราคา 3,900 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.instagram.com/sushi.koge/ หรือสำรองที่นั่ง โทร 099-003-9039