ชาบู-ชาบู สุกี้ พรีเมี่ยมแบบญี่ปุ่นที่ “ซาคาเอะ” (SAKAE)

ฤดูท่องเที่ยวปลายปี หลายปีก่อนมีโควิด-19 คนไทยฮิตบินไปญี่ปุ่นหนักมาก ปีนี้คนญี่ปุ่นก็คิดถึงรอคนไทยไปเที่ยว นักท่องเที่ยวไทยไม่น้อยก็คิดถึงญี่ปุ่นไม่แพ้กัน

Sineha Bangkok เลยตั้งใจมาชวนไปกินชาบูแก้คิดถึงญี่ปุ่นกันหน่อย จัดแบบพรีเมี่ยมกันเลย เพิ่งมีแบรนด์ชาบูน้องใหม่ เปิดตัวเป็นแบบพรีเมี่ยมเลยด้วย ไอเดียเชิญชวนแบบให้ลูกค้ามาเปิดประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ได้เลยทีเดียว ชื่อร้าน “ซาคาเอะ” (SAKAE)

เริ่มแรกการันตีความพรีเมี่ยมจากการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ได้แก่ เนื้อวากิวญี่ปุ่น ระดับ A4 เนื้อวากิวญี่ปุ่น ระดับ F1 และ เนื้อซาคาเอะ ซิกเนเจอร์ หรือเนื้อส่วนสันคอวัว

เพราะเมนุระดับคัดสรรของที่คนรักอาหารญี่ปุ่นนึกถึงและได้รับความนิยมตลอดกาล หนีไม่พ้น ซูชิ/ซาชิมิ ราเมน ดงบุริ เทปปันยากิ ชาบู-ชาบู หรือสุกี้ยากี้ พร้อมเหตุผลที่หลายคนชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น เพราะรสชาติจากวัตถุเกรดดี ทำให้ผู้บริโภคที่รักสุขภาพวางใจและรู้สึกว่าอาหารญี่ปุ่นสะอาดเพราะการคัดสรรวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทาง รวมไปถึงมาตรฐานการบริการ และคุณภาพของวัตถุดิบที่เชื่อใจได้

ร้านอาหารญี่ปุ่น “ซาคาเอะ” (SAKAE : The Signature Taste of Shabu Shabu and Sukiyaki) ที่แอดมินไปลองมาแล้ว ต้องมาบอกต่อเลยว่า เป็นร้านที่ให้ทั้งประสบการณ์การทานชาบูชาบูสุกี้แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ได้จริงแล้ว ยังวางใจเรื่องวัตถุดิบคุณภาพได้สมมาตรฐานญี่ปุ่นอีกด้วย

อย่าเพิ่งเชื่อแอดมิน ยังไงลองหาเวลาไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง แวะไปชิมอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ระดับพรีเมียมที่ซาคาเอะดูด้วยตัวเองจะดีกว่า กระซิบบอกให้ด้วยเลยว่า คนรักเนื้อ ระวังจะหลงรักร้านนี้เอาง่าย ๆ

แนะนำ 3 เซ็ตให้เลือกจุใจสำหรับคนรักเนื้อเน้น ๆ ได้แก่

  1. เนื้อวากิวญี่ปุ่น ระดับ A4 (Japanese Wagyu A4 Beef) หรือเนื้อสันส่วนที่ติดมัน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดและอร่อยที่สุด มีความแน่นละเอียด และชุ่มฉ่ำจากไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนอยู่ในเนื้อสวยงาม ซึ่งอ่อนนุ่ม ละมุนลิ้น ราวกับละลายในปากกันเลยทีเดียวเชียว (เซ็ตเนื้อวากิว A4 ราคา 1,400 บาท)
  1. เนื้อวากิวญี่ปุ่น ระดับ F1 (Japanese Tokusen F1 Beef) หรือเนื้อส่วนสันคอ เป็นเนื้อที่ได้จากการผสมผสานข้ามสายพันธุ์ของวัวสายพันธุ์คุณภาพดี ระหว่างสายพันธุ์วากิวแท้ 100% กับสายพันธุ์วัวนมญี่ปุ่น มีเนื้อสัมผัสนุ่ม หนึบ และมีรสชาติที่เข้มข้น หรือเหมือนกับเนื้อวากิว ระดับ A3 ราคาจะเบาลงมานิดเมื่อเทียบกับตัวแรก (เซ็ตเนื้อวากิว F1 ราคา 1,100 บาท)
  1. เนื้อซาคาเอะ ซิกเนเจอร์ หรือเนื้อส่วนสันคอวัว (Sakae Signature Beef) หรือเนื้อส่วนสันคอวัว จุดเด่นของเนื้อส่วนนี้คือ เป็นเนื้อส่วนที่มีคอลลาเจนอยู่มาก ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม (เซ็ตเนื้อซาคาเอะ ซิกเนเจอร์ ราคา 900 บาท)

แถมท้ายด้วยเนื้อหมูพรีเมี่ยม ส่วนสันคอหมู คุณภาพระดับพรีเมียม และเป็นเนื้อส่วนที่มีริ้วไขมันแทรกอยู่บาง ๆ ซึ่งให้รสสัมผัสนุ่ม เด้ง กำลังดี เป็นอีกทางเลือกของคนไม่ทานเนื้อ ที่เสิร์ฟ ชุดใหญ่จัดเต็มแบบอิ่มแน่นอน (ชุดเนื้อหมูพรีเมี่ยม ราคา 490 บาท)

การจัดเสิร์ฟจะทำเป็นชุดต่อคน พร้อมเครื่องเคียง และน้ำซุปต้นตำรับ มีให้เลือก 2 สูตร คือ น้ำซุปน้ำใส รสชาติเบา ๆ แต่กลมกล่อม (สำหรับชาบู-ชาบู) มีน้ำจิ้มให้เลือก 2 อย่าง คือ พอนสึ รสชาติจะเปรี้ยว เค็ม หวานหน่อย แต่หอม แอดมินชอบมากเลยตัวนี้ และ โกมาดาเระ น้ำจิ้มน้ำมันงาสไตล์ญี่ปุ่น อีกตัวคือ น้ำซุปน้ำดำ รสชาติเข้มข้น (สำหรับสุกี้ยากี้) ที่ใช้ไข่แดงดิบมาเป็นน้ำจิ้มช่วยชูรสชาติวัตถุดิบให้โดดเด่น

ส่วนตัวแอดมินเองชอบน้ำดำมาก อร่อยกลมกล่อมถูกปากเลย ส่วนเครื่องเคียง ซึ่งมีให้เลือกระหว่างสลัดมะเขือเทศ ที่ทานแล้วไม่เหมือนกินมะเขือเทศเลย รสชาติดีขนาดที่ว่าคนไม่ชอบมะเขือเทศยังติดใจ

หรือจะเลือกเป็นเต้าหู้โกมะ ก็เป็นเต้าหู้ที่รู้สึกได้ถึงคุณภาพและรสชาติสมเป็นพรีเมี่ยม และเลือกระหว่างข้าวสวยญี่ปุ่นหรือ อินะนิวะ อุด้ง อุด้งเส้นแบน นำเข้าจากเมืองอินะนิวะ ของจังหวัดอากิตะ ที่พูดเลยว่าห้ามพลาด เป็นอุด้งเส้นสดที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ทานมาก็ว่าได้ พร้อมชุดผักรวมและไอศกรีมยูซุ เชอร์เบท รสชาติยังติดใจจนถึงเดี๋ยวนี้เลย

บรรยากาศภายในร้านและการตกแต่งนั้น โปร่งโล่ง ดูสะอาดสะอ้านซึ่งเห็นได้ตั้งแต่เดินมาไกล ๆ เลย การตกแต่งยังสื่อความเป็นญี่ปุ่นด้วยสีสันและลวดลาย ในแสงไฟที่ให้โทนสีอบอุ่น ที่เขาว่าทำให้เจริญอาหาร ก็รู้สึกได้จริง ๆ

ตัวร้านแบ่งเป็น 3 โซน คือ Ring A มีทั้งหมด 28 ที่นั่ง, Ring B, และ Ring C มีอย่างละ 20 ที่นั่งเท่า ๆ กัน การจัดรูปแบบที่นั่งก็เป็นแบบ 1 คนต่อ 1 หม้อ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเข้ากับสถานการณ์โควิด แบบหม้อใครหม้อมันปลอดภัยที่สุดจริง ๆ

ต้องยอมรับเลยว่า “ซาคาเอะ” (SAKAE) ใส่ใจและพิถีพิถัน สมกับที่ตั้งใจให้เป็น พรีเมี่ยม ชาบู-ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น เพราะแม้แต่โลโก้ ก็ยังมีดีเทลประณีต มีความหมาย โดยผสมผสานสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมล็ดพันธุ์ข้าวที่สมบูรณ์เข้ากับน้ำพุ 5 สาย วางสลับกันไปมาเป็นวงกลม… ลักษณะคล้ายดอกไม้ ห้อมล้อมตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น คันจิ ซึ่งได้แก่ 栄 (อ่านออกเสียงว่า ซะ-คะ) ที่สื่อถึงความรุ่งเรืองอันยั่งยืน ตามคำแปลและความหมายของชื่อร้าน คือ “ซาคาเอะ” นั่นเอง

อะไร ๆ ก็ไม่ธรรมดา แต่ราคาเข้าถึงได้ แอดมินเลยอยากให้ไปลองจริง ๆ ค่ะ

  • ร้านอาหารญี่ปุ่น “ซาคาเอะ” เปิดทุกวัน
  • เวลา : 11.00 – 21.00 น.
  • โทร : 09-6774-8121
  • พิกัด : ชั้น 2 โครงการ เดอะ ปาร์ค ไลฟ์ – ถนนพระรามที่ 4 (แยกคลองเตย)
  • MRT : ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออกประตู 2

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.