จากข้าวซอยเนื้อถึงมัสมั่นแกะ ห้องอาหารพายที่ The House on Sathorn พาเราสำรวจรสชาติไทยในมุมใหม่อย่างมีชั้นเชิง

Sineha Bangkok ได้กลับมาที่ ห้องอาหารพาย (Paii) อีกครั้ง หลังจากได้ยินมาว่าทางร้านเปิดตัว 6 เมนูใหม่ที่สร้างสรรค์โดย เชฟโจ วีรเกต นิลายน หัวหน้าเชฟของที่นี่ ผู้ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้กับเมนูไทยร่วมสมัยที่ลึกซึ้งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอนแรกเราคิดว่าคงเป็นการอัปเดตเมนูแบบทั่ว ๆ ไป แต่พอได้ลิ้มลองแต่ละจานจริง ๆ กลับรู้สึกเหมือนได้เดินทางผ่านรสชาติของประเทศไทยอีกครั้ง—แต่ครั้งนี้มีลูกเล่นที่แปลกใหม่ สมัยใหม่ และยังคงรากเหง้าของความเป็นไทยไว้อย่างครบถ้วน

ก่อนที่เมนูหลักจะเริ่ม เชฟขอเซอร์ไพรส์เราด้วย “คำแรก” เมี่ยงส้มโอ ที่เสิร์ฟเป็นคอมพลีเมนทารี่ก่อนทุกโต๊ะ กลายเป็นคำทักทายแบบไทย ๆ ที่ชาญฉลาด เนื้อส้มโอชุ่มฉ่ำ ตัดกับเครื่องสมุนไพรและซอสพริกเผาหอม ๆ ให้รสเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดครบถ้วนภายในหนึ่งคำเดียว


1. ยำสตรอว์เบอร์รีกุ้งย่าง ราคา 560 บาท – สะกิดความหวานในรสเผ็ด
จานแรกที่เราได้ลองคือยำที่ดูเหมือนจะหวาน ๆ ใส ๆ แต่จริง ๆ แล้วรสชาติจัดจ้านน่าประทับใจมาก สตรอว์เบอร์รีสดฉ่ำเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อกับกุ้งย่างหอม ๆ ซอสรสเผ็ดหวานที่ราดมาเพิ่มความลุ่มลึกให้ยำจานนี้กลายเป็นมากกว่าสลัดรสจัด

2. สะเต๊ะกุ้ง ราคา 470 บาท – ความหอมแบบไทยที่หอมจนอยากกลับไปซ้ำ
ใครว่า “สะเต๊ะ” เป็นของกินเล่นธรรมดา จานนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนสะเต๊ะกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง ตัวกุ้งย่างพอดี ไม่แห้งเกินไป ราดด้วยซอสสะเต๊ะสูตรเข้มข้นหอมถั่วและเครื่องเทศ ส่วนตัวเราว่ามีความคล้ายน้ำซอสสลัดแขก แต่หอมอร่อยดี

3. ผัดไทยล็อบสเตอร์ ราคา 1,490 บาท – เส้นเหนียวนุ่ม รสเข้มแบบไม่ต้องปรุง
ถือเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหารพายที่ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น เส้นผัดไทยเหนียวนุ่มคลุกซอสมาอย่างดี มีความหอมของกระทะชัดเจน ตัวล็อบสเตอร์สดหวาน เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่นิดเดียว ตกแต่งจานด้วยความหรูหราสมกับราคาที่จ่าย

4. มัสมั่นแกะ ราคา 950 บาท – กลิ่นหอมแรง กลมกล่อมเข้มข้น
เนื้อแกะเปื่อยนุ่มแทบละลายในปาก แกงมัสมั่นมีความมันจากกะทิและกลิ่นเครื่องเทศแบบไทยแท้ รสชาติกลมกล่อมแบบที่ไม่ต้องข้าวก็อร่อย แต่ถ้าได้ข้าวสวยร้อน ๆ คู่กันก็จะยิ่งเพอร์เฟกต์ เป็นจานที่รู้สึกได้ถึงความพิถีพิถันทั้งในวัตถุดิบและวิธีปรุง

5. ต้มกะทิเนื้อเค็ม ราคา 620 บาท – จานหายากที่อบอุ่นหัวใจ
เมนูนี้มีความบ้าน ๆ แต่ถูกตีความใหม่ให้ดูร่วมสมัย ที่เชฟใส่เนื้อถึง 3 อย่าง เนื้อรมควัน เนื้อแดดเดียว และเนื้อแก้มวัวตุ๋น บอกเลยว่าคนรักเนื้อห้ามพลาดเมนูนี้ เนื้อนุ่มรสชาติกำลังดี ไม่เค็มเกินไป ผสมกับกะทิหอมมันและสมุนไพรไทย เสิร์ฟร้อน ๆ คือกลมกล่อมลงตัวมาก

6. ข้าวซอยเนื้อ ราคา 690 บาท – หนึ่งในข้าวซอยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ
เส้นข้าวซอยเหนียวนุ่ม ซุปเข้มข้นกลิ่นเครื่องเทศชัดเจนแต่ไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป เนื้อวากิวตุ๋นเปื่อยนุ่มเสิร์ฟมาอย่างพอดี ตัวน้ำซุปมีเลเยอร์รสชาติที่ชวนซดจนหยดสุดท้าย ใครชอบอาหารเหนือจะต้องตกหลุมรักจานนี้

ปิดท้ายมื้อด้วยของหวานที่อาจไม่ใช่เมนูใหม่ แต่ Sineha Bangkok ขอบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด!

พายวาฟเฟิล ราคา 490 บาท เมนูนี้มาในลุคชวนใจเต้น เพราะดูเหมือนจะครีมแน่นเต็มชิ้น แต่พอลองตักคำแรกกลับพบว่าเนื้อครีมเบาสบาย ละมุนลิ้นแบบไม่เลี่ยนเลยแม้แต่น้อย วาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน เข้าคู่กับครีมและผลไม้สดได้อย่างลงตัว จัดว่าเป็นของหวานที่สมบูรณ์แบบทั้งรสชาติและเท็กซ์เจอร์

โคโค่นัท ซันเดย์ ราคา 370 บาท เหมือนรวม “ไอศกรีมรวมมิตร” แบบพรีเมียมไว้ในแก้วเดียว ทั้งไอศกรีมกะทิเข้มข้น เครื่องแน่น ๆ เคี้ยวเพลินทุกคำ หอม หวาน มัน กลมกล่อมแบบที่คนรักไอศกรีมห้ามพลาดจริง ๆ

Sineha Bangkok ขอยืนยันอีกเสียงว่า 6 เมนูใหม่จากห้องอาหาร Paii ที่ The House On Sathorn โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำหรับ “สายอาหารไทย” ที่ชื่นชอบความร่วมสมัยที่ไม่ทิ้งรากเหง้า ทุกจานมีความหมาย ทุกคำมีเรื่องเล่า และทุกคนที่ไปจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกว่าคำว่า “อร่อย”
เมนูใหม่พร้อมเสิร์ฟทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 – 23.00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 22.30 น.)
สำรองที่นั่งหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.paiibangkok.com
หรือโทร. 02 344 4025
