Chef’s Table มื้อพิเศษ ปลาไทย หัวใจญี่ปุ่น ปรุงด้วยสุดยอดเชฟ กับสาเกแพริ่งสุดละเมียด

ค่ำคืนของ Chef’s Table 10 คอร์สที่ Black Inu Izakaya ถือเป็นหนึ่งในมื้อที่ Sineha Bangkok ต้องจดจำที่สุด ไม่ใช่แค่เพราะรสชาติอาหารที่โดดเด่น แต่ยังรวมถึงแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์แต่ละจาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง เชฟอนิวรรตน์ วัฒนชัย และ ทาคุยะ โอกุระ นักแล่ปลาชาวญี่ปุ่นแห่ง Gyotak ปลาไทยหัวใจญี่ปุ่น รวมไปถึง สาเกแพริ่ง คัดพิเศษจาก Sake Seeker

Gyotak: เมื่อปลาไทยไปไกลถึงระดับซาชิมิ – Gyotak อาจยังไม่เป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับหลายคน แต่ถ้าพูดถึงปลาสดระดับซาชิมิที่มาจากฝีมือการคัดสรรและแล่ของชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ ในไทย Gyotak คือหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้ปลาไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยเทคนิคการจัดการปลาที่พิถีพิถัน คัดเฉพาะปลาจากแหล่งที่สะอาด พร้อมกรรมวิธี Shinkeijime ซึ่งช่วยรักษาความสดใหม่และรสชาติให้ดีที่สุด


ทาคุยะ โอกุระ เป็นผู้เชี่ยวชาญการแล่ปลาชาวญี่ปุ่นที่ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่เมืองไทยพร้อมลูกชายเกือบ 10 แล้ว ในวันที่ลูกชายอยากกินปลาดิบแบบที่เคยกินในเมืองไอจิ ทาคุยะกลับไม่มั่นใจในความสะอาดจนออกเรือไปหาปลามาทำให้ลูกชายทานเอง แล้วจึงพบว่า ปลาไทยคุณภาพไม่ต่างจากปลาญี่ปุ่นเลย จึงได้นำเข้าเครื่องมือเก็บรักษาความเย็นจากญี่ปุ่นพร้อมกรรมวิธี Shinkeijime ซึ่งช่วยรักษาความสดใหม่และรสชาติให้ดีที่สุด ใส่ใจเรื่องความสะอาด และแบคทีเรียที่สุด จนได้คุณภาพไม่แพ้ปลานำเข้าจากญี่ปุ่น หรือดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า จนกลายเป็นวัตถุดิบหลักที่ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม และชั้นนำเลือกใช้


ซึ่งแน่นอนว่า เชฟอนิวรรตน์ ก็เลือกใช้ปลาไทยจาก Gyotak มาเป็นส่วนหนึ่งของเมนูที่ Black Inu Izakaya ด้วยจึงได้เกิดมื้อพิเศษ Chef’s Table 10 คอร์ส ตอกย้ำคุณภาพวัตถุดิบ และฝีมือการทำอาหารของ เชฟอนิวรรตน์ วัฒนชัย เชฟไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา พร้อมการแพริ่งของสาเกจาก Sake Seeker ให้ Chef’s Table มื้อนี้คอมพลีทที่สุด


ไฮไลต์ของ Chef’s Table ค่ำคืนนี้อยู่ที่วัตถุดิบหายาก ซึ่งบางชนิดจับได้เพียงปีละครั้ง และบางจานเป็นการทดลองครั้งแรกในไทย ไม่ว่าจะเป็น Shirago ของปลาอินทรีย์, Carpaccio ปลาหางแข็ง, หรือ ปลาเกร็ดแก้วทอดกรอบ ซึ่งทุกจานถูกออกแบบมาให้เข้ากับ สาเกแพริ่ง 5 ชนิด ที่เสริมรสชาติให้อาหารแต่ละคำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มีอะไรบ้างมาดูกัน
Sashimi Platter – ซาชิมิปลาไทยสดที่หวานละมุนแบบไม่ต้องพึ่งโชยุ ซึ่งใช้ปลาไทยตามฤดูกาล
Red fish – กาปาโช่ปลาหางแข็ง


Mabuta Namerou – ปลารากซายสับ ปรุงรสด้วยมิโสะดาชิ
Sawara Shirago – ชิราโกะจากปลาอินทรีย์ หรือสเปิร์มของปลาอินทรี นั่นเอง ไม่มีกลิ่คาววักนิดรสชาติเนียนนุ่ม ตัดกับซอสปอนสึหอม ๆ เป็นเมนูที่หากินยากมาก ๆ โดยเฉพาะ ปลาอินทรี ถือว่าปรายเซียนมากในการเอามาทำซาชิมิโดยไม่คาว เพราะเป็นปลาที่ห่างน้ำก็สามารถมีกลิ่นแลเนื้อด้อยคุณภาพไวมาก แต่ KYOTAK สามารถจัดการปัญหาตรงนี้ได้จนทำให้เราได้ลองเมนูหาทานยากแบบนี้


Nettai Salad – สลัดปลาเกร็ดแก้ว เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศดอง น้ำสลัดโชยุหอมใหญ่
Ranong Wild Oyster – หอยนางรมจากระนองที่สดและเต็มคำสุด ๆ เสิร์ฟพร้อมซอสยูสุและน้ำมันงา


Ume Umeiro Tempura – เทมปุระปลาเหลืองญี่ปุ่น ผักบอกชอยและซอสโชยุหวาน
Hamburg with Cheese – แฮมเบิร์กเนื้อแน่นสอดไส้ชีส พร้อมไข่นกกระทาดอง ซอสไวน์แดง

Asari Miso Soup – ซุปมิซโซะแดงญี่ปุ่น หอยตลับจากระนอง เห็ดและมิสึบะ
Tofu Cheesecake – ปิดท้ายด้วยชีสเค้กเต้าหู้ที่ราดด้วยซอสน้ำผึ้งเดือน 5 นุ่มและละมุนแบบไม่หนักเกินไป


อาหารเสิร์ฟพร้อมสาเก 5 ชนิด ได้แก่ Fukucho seafood Junmai, Emishiki Sensation Gold, Niida Honke Odayaka Junmaiginjo, Kuroobi “YU-YU” Special Junmai และ Gozenshu Yuzu Sake โดยรวม สาเกที่ทาง Sake Seeker เลือกมาให้แพริ่ง ค่อนข้างดื่มง่ายและช่วยชูรส ส่วนตัว Sineha Bangkok ชอบตัวสุดท้ายที่สุด หอมกลิ่น Yuzu มาก

Black Inu Izakaya X Gyotak X Sake Seeker ไม่ใช่แค่การกินอาหารอร่อย แต่เป็นการ บอกเล่าเรื่องราวของปลาไทยผ่านรสชาติและเทคนิคระดับโลก ค่ำคืนของChef’s Table ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า อาหารทะเลไทยไปไกลกว่าที่คิด เมื่อผ่านมือของคนที่เข้าใจมันอย่างแท้จริง ใครที่ต้องการกินวัตถุดิบดีแบบนี้ ไปลองเมนูอื่น ๆ ได้ที่ Black Inu Izakaya ถนนพระราม 5หรือสั่งวัตถุดิบตรงผ่านLine Official: Gyotak หรือ Facebook: Gyotak Fishmonger ได้เลย