Restaurant
ชวนชิม วัสสานะเมนู ที่ Thai Terrace
ถ้าพูดถึงร้านอาหารในเครือเซ็นทรัลทุกคนคงรู้จักร้าน “The Terrace (เดอะเทอเรส)” ร้านอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารไทยเป็นหลัก มาวันนี้เดอะเทอเรสได้ปรับโฉมและชื่อใหม่เป็น “Thai Terrace (ไทย เทอเรส)” พร้อมทั้งปรับเมนูในร้านเป็นอาหารไทยทั้งหมด เพื่อที่จะปักธงสร้างเอกลักษณ์ ที่จะพร้อมเสริ์ฟไปสู่ครัวสากลมากขึ้น ครั้งนี้ Sineha Bangkok จึงขอพาทุกคนไปชมและชิมร้าน ไทย เทอเรสกันที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ว่าจะมีเมนูอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
ช่วงที่เราได้มาเยี่ยมชมและชิม ที่ไทยเทอเรสนั้นเป็นช่วงที่ทางร้านได้มีโปรโมชั่นพิเศษที่เริ่มตั้งแต่วันนี้- 31 สิงหาคม 2562 โดยนำเสนอเป็นเมนูอาหารไทยโบราณประจำหน้าฝนใช้ชื่อว่า “Thai Specialty Cuisine in the Rainy Season วัสสานะเมนูอาหารไทยตำรับโบราณประจำฤดูฝน” ราคาเริ่มต้นที่ 89 – 499 บาท ประกอบไปด้วยอาหารคาว 5 เมนูเครื่องดื่ม 2 เมนูและของหวานอีก 1 เมนู
เริ่มกันด้วยเมนูอาหารคาวเมนูแรก ที่ได้ลองชิมก็คือแกงคั่วเนื้อริบอายย่างเห็ดเผาะใบชะอม ราคา 499 บาท เมนูนี้เสิร์ฟในสไตล์โมเดิร์น ฉีกภาพลักษณ์อาหารไทยออกไป เนื้อริบอายชิ้นใหญ่สุกนุ่ม ทานคู่กับแกงคั่วในรูปของน้ำจิ้ม แกล้มด้วยเห็ดเผาะ และใบชะอมให้รสชาติเนื้อเต็มคำส่วนแกงก็หอมเครื่องแกง รสชาติไม่เผ็ดจนเกินไป
เมนูที่สองคือ แกงคั่วปลากะพงย่างเห็ดเผาะใบชะอม ราคา 499 บาท เหมือนกับเมนูแรกทุกประการ เพียงแต่เปลี่ยนตัวโปรตีนจากเนื้อริบอายเป็นปลากระพงแทนทำให้รสสัมผัสเปลี่ยนไป เมนูนี้จะมีความนุ่มละมุนลิ้นมากกว่านิดหน่อย
เมนูที่สามคือ ปลากะพงต้มขิงสูตรโบราณ ราคา 299 บาทเป็นเนื้อปลากะพงชุดแป้งทอดใส่ลงน้ำซุปขิง พร้อมผักต่างๆ มีกลิ่นของขิงอ่อนๆ เหมาะกับฤดูฝน ส่วนเนื้อสัมผัสของปลาที่ถูกทอดมาเมื่อกินคู่กับซุปก็เข้ากันได้ดี
เมนูที่สี่คือ น้ำพริกระกำ พร้อมไก่ย่างขมิ้นสูตรคุณย่า ราคา 249 บาท เป็นเมนูอาหารไทยยอดนิยมประจำภาคใต้อย่างตัวน้ำพริกระกำรสชาติเหมือนน้ำพริกกะปิ ที่เราคุ้นเคยเพียงแต่จะมีรสชาติเปรี้ยวจากระกำโดดขึ้นมา ทำให้มีความแปลกใหม่เมื่อได้ทาน ส่วนตัวไก่ย่างขมิ้นสูตรคุณย่า ก็ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีกับการเสริ์ฟ ตัวไก่มีความนุ่มและขมิ้นที่ถูกหมักมากับไก่ก็มีความเข้มข้นที่พอดี เมื่อทานกับน้ำพริกระกำ ถือว่ามีความพอดี และได้กลิ่นอายความเป็นไทยชัดเจน
เมนูสุดท้ายของเมนูอาหารคาวคือ กุ้งลายเสือห่อใบชะพลูย่างและน้ำปลาหวานพริกขิงสด 279 บาท ตัวกุ้งลายเสือถูกห่อด้วยใบชะพลูทั้งใบ รสชาติเหมือนกุ้งลายเสือทั่วไป เพียงแต่มีความพิเศษตรงที่ได้กลิ่นใบชะพลูคู่มาด้วย แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนลองก็คือตัวน น้ำปลาหวานที่ถูกเสิร์ฟมาเป็นน้ำจิ้ม ตอนแรกที่ได้ยินชื่อ นึกว่าเป็นน้ำปลาหวานที่ทานคู่กับมะม่วง แต่เป็นน้ำจิ้มที่ออกรสคล้ายๆ น้ำยาที่มีรสชาติหวานน้ำเปรี้ยว ตามแซมด้วยเค็มนิดๆ
มาต่อกันที่เครื่องดื่มประจำฤดูฝนนี้ ไทย เทอเรส ทางร้านได้นเสนอ 2 เมนูด้วยกัน คือชามะนาวเย็น และชาไทยเย็น ราคาแก้วละ 69 บาทำ
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานนั่นก็คือ ไอศกรีมกะทิสดพร้อมกล้วยเชื่อม ไทย เทอเรส ราคา 89 บาท ไอศกรีมกะทิ อบด้วยควันเทียน ทำให้ได้ทั้งกลิ่นกะทิและควันเทียนลอยมาอ่อนๆ เมื่อทานจะรู้สึกสดชื่น แกล้มกับเมนูของหวานที่ขึ้นชื่อของ ไทย เทอเรส อย่างกล้วยเชื่อมทำให้มีความลงตัวและสื่อถึงฤดูฝนสุดๆ
ทุกเมนูสามารถสั่งเป็นเมนูจานเดียวก็ได้ หรือเป็นเซทเสิร์ฟพร้อมข้าวก็ได้ ตามราคาต่อไปนี้
เซท 1 เสิร์ฟพร้อมข้าว 1 ที่ ราคา 499 บาท เมนูในเซทได้แก่ น้ำพริกระกำ พร้อมไก่ย่างขมิ้นสูตรคุณย่า + ปลากะพงต้มขิงสูตรโบราณ
เซท 2 เสิร์ฟพร้อมข้าว 2 ที่ ราคา 799 บาท เมนูในเซทได้แก่ น้ำพริกระกำ พร้อมไก่ย่างขมิ้นสูตรคุณย่า + ปลากะพงต้มขิงสูตรโบราณ + กุ้งลายเสือห่อใบชะพลูย่าง และน้ำปลาหวานพริกขิงสด
เซท 3 เสิร์ฟพร้อมข้าว 2 ที่ ราคา 1,299 บาท เมนูในเซทได้แก่ น้ำพริกระกำ พร้อมไก่ย่างขมิ้นสูตรคุณย่า + ปลากะพงต้มขิงสูตรโบราณ + กุ้งลายเสือห่อใบชะพลูย่าง และน้ำปลาหวานพริกขิงสด + แกงคั่วเนื้อริบอายย่างเห็ดเผาะใบชะอม หรือ แกงคั่วปลากะพงย่างเห็ดเผาะใบชะอม
โดยสามารถแลกซื้อเมนูไอศกรีมกระทิสด พร้อมกล้วยเชื่อมไทย เทอเรส ในราคา 69 บาท เมื่อสั่งเป็นเซทจากปกติ ราคา 89 บาท
หากใครสนใจ เราก็ขอเชิญให้ท่านไปพิสูจน์ความเป็นไทยโบราณ ที่สามารถจับต้องได้ใกล้บ้านคุณด้วยตัวเอง จะทานที่ร้าน หรือจะซื้อกลับบ้าน โดยสั่งแบบเดลิเวอร์รี่ก็ได้เช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม สาขา ไทย เทอเรส ที่ร่วมรายการ ทั้งหมด 15 สาขา ได้แก่เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 6, เซ็นทรัล บางนา ชั้น 3, เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 2, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 2, เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์พระราม 9 ชั้น 6, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ชั้น 6, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ชั้น 1, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ชั้น 2, เซ็นทรัลเวิลด์ชั้น 7, เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 4, บ้านแอนด์บียอนด์ราชพฤกษ์ชั้น 1, เทอร์มินอล 21 ชั้น 4, รพ.ศิริราช ตึกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช