Jardin Du Boeuf ร้านสเต็กแห่งอนาคตที่เน้น Zero Waste

สวนแห่งเนื้อ ที่โรงแรมซัมเมอร์เซ็ท พระราม 9

Jardin Du Boeuf (จาร์แดง ดู เบิร์ฟ) แปลว่า ‘สวนแห่งเนื้อ’ ร้านสเต็กที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ร้านสเต็กหรูหราแต่สบายตาและดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวบนถนนรัชดา ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมซัมเมอร์เซ็ท พระราม 9 ที่มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน (Sustainable Food) เสิร์ฟอาหารที่มาจากจริยธรรม และเน้นรสชาติ และ Zero Waste เน้นใช้ทุกอย่างอย่างคุ้มค่า

แค่แนวความคิดก็โดนใจจน Sineha Bangkok ต้องขอมาลิ้มลองเลย ร้าน Jardin Du Boeuf ดูแลโดย Deepanker Khosla หรือ เชฟ DK เจ้าของร้าน Haoma ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการรับประทานอาหารของผู้คนให้ไปในทางที่ดีขึ้น เน้นการใกล้ชิดธรรมชาติ และ สร้างจริยธรรมที่ดีต่อผู้ผลิตอาหารและวัตถุดิบที่แท้จริง

บรรยากาศการดีไซน์ร้านจึงมีสีเขียวของธรรมชาติเข้ามาด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงหรูหราแสดงให้เห็นถึงร้านสเต็กชั้นดี ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เบาหนังชั้นดี เก้าอี้สีน้ำเงิน และเทาทันสมัย เข้าไว้ด้วยกัน และสามารถเลือกนั่งในร้านหรือภายนอกร้านได้เช่นกัน

เชฟ DK ได้ เชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล (Don Sujith) ผู้ชนะรายการ Iron Chef Thailand 2021 และทีม มาดูแลทั้งเมนูและทุกอย่างภายในครัว เชฟที่เต็มไปด้วยความรู้ความเข้าใจในส่วนผสมที่ดีที่สุด พิถีพิถันในการคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพ โดยเลือกเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าเท่านั้น หรืออาหารทะเลสดที่ส่งตรงมาจากชาวประมง เน้นการย่างด้วยถ่านที่ให้ความหอม หรือไวน์ออแกนิคจากไร่องุ่นออร์แกนิคแบบไบโอไดนามิคปลอดสารเคมีจากทั่วโลก เป็นต้น

ความโดดเด่นของร้าน Jardin Du Boeuf ที่ไม่เหมือนใครคือ เชฟดอนเปิดห้องครัวให้เราสามารถเข้าไปชมให้เห็นกับตาถึงกรรมวิธีการปรุงอาหาร และเราก็สามารถเลือกวิธีย่างสเต็กในแบบที่เราชอบเองได้โดยเลือกว่าจะใช้ถ่าน หรือ ไม้โกงกางจากป่าชายเลน ในการย่างเนื้อเพื่อรสชาติที่ดีและถูกใจเราที่สุดได้อีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นการใช้เนื้อวัวจากธรรมชาติ อย่างเมนู Steak Fries (350 บาท) ไปจนถึงอาหารทะเลแบบยั่งยืนหลายเมนู ผลิตผลจากฟาร์มขนาดเล็กไปจนถึงผู้ผลิตชีส หรือมีดหั่นสเต็กที่เราสามารถเลือกน้ำหนักได้ตามความชอบ ความพิถีพิถันขนาดนี้ ทำให้อาหารแต่ละเมนูที่มาเสิร์ฟ อร่อยติดใจ Sineha Bangkok แทบทุกจาน

JDB Brioche ขนมปังบริยอช ที่นุ่มและอร่อยมาก, Seabass Ceviche (550 บาท) ปลากระพงที่นำมาคลุกักบซอสเสารสและเพิ่มเท็กเจอร์ด้วยถั่วลิสง อย่างที่เชฟต้องการใช้ผลิตผลทุกอย่างที่หาได้ในเมืองไทย ซึ่งก็แปลกดีในครั้งแรกที่กิน แต่ก็อร่อยเพลินขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

มาต่อที่เมนู brunt Leeks (490บาท) ต้นกระเทียมย่างบนถ่านไม้ ที่หอมมากตอนมาเสิร์ฟ ข้างนอกดูไหม้เกรียมเพราะค่อย ๆ ย่างด้วยถ่านแต่ข้างในจะสุกพอดีกำลังกิน Sineha Bangkok ผู้ไม่ชอบกินต้นกระเทียมต้องยกนิ้วให้เลยกับความอร่อย หรือเมนู Eggplant and Miso (390 บาท) มะเขือม่วงหมักกับมิโซะโฮมเมด พร้อมเมล็ดฟักทอง แต่ละเมนูของเชฟ หอมนำมาก่อนจริง ๆ

ตามมาต่อกันที่ JDB Burger เบอร์เกอร์เนื้อวากิว ที่ใช้ขนมปังบริยอชโฮมเมด ที่คนรักเนื้อถูกใจเมนูนี้แน่นอน ส่วนเมนู Charred Tiger Prawns (850 บาท) กุ้งลายเสือย่างพร้อมซัมบัลคล้ายซอสเอ็กซ์โอแบบจีนเลย เผ็ดใช้ได้ทีเดียว หรือเมนู Pork Chop ที่ใช้องุ่นทั้งพวงย่าง กินกับพอร์คช็อปก็เข้ากันได้ดี ส่วนเมนูปลากะพงย่างอย่าง Grilled Seabass ก็ชิ้นใหญ่น่าทานราดมาในซอสสูตรพิเศษของเชฟ

ส่วนเมนูของหวาน ต้องบอกว่า Sineha Bangkok ชอบมากจริง ๆ กับเมนู 24 Hours Lemon (350 บาท) เชฟช่างครีเอทมาก เอาเปลือกเลม่อนมาแช่อิ่มนาน 24 ชั่วโมง จนฉ่ำหวาน แล้วสอดไส้ด้วยซอร์เบเลม่อน เสิร์ฟมาบนเลม่อนครีม ที่เราสามารถทานได้ทั้งลูก ใครมีโอกาสไปลองห้ามพลาดเมนูนี้เลยนะ แต่ถ้าเป็นช็อคโกแลตเลิฟเว่อต้อง JDB Ferrero Rocher (350 บาท) ทรัฟเฟิลช็อกโกแลตสูตรพิเศษจากเชฟเลย

คอนเฟิร์มให้เลยว่าเชฟเก่งและสร้างสรรค์มาก อาหารอร่อยถูกปาก Sineha Bangkok แทบทุกเมนูแบบไม่คาดคิดเลย แวะไปพิสูจน์ด้วยตัวคุรเองได้เลย

Jardin Du Boeuf 

โรงแรมซัมเมอร์เซ็ท พระราม 9 (Somerset Rama 9)

ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ

โทรศัพท์ 022391971

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.