นำเสนอคุณค่าวัตถุดิบแห่งน่านน้ำไทย ผ่านอาหารไทยดั้งเดิมและสมัยนิยม
ห้องอาหารไทย ชมสินธุ์ (ChomSindh) ใน โรงแรม อมารี กรุงเทพฯ ถือเป็นห้องอาหารไทยเปิดใหม่ในปีนี้เกิดขึ้นภายใต้ความทรงจำวัยเยาว์ของ ‘คุณท็อป-ยุทธชัย จรณะจิตต์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ธุรกิจโรงแรมภายใต้กลุ่มบริษัท ONYX Hospitality Group ภายใต้แบรนด์ Amari ที่นำชื่อ ชมสินธุ์ ชื่อเรือยอชท์ของครอบครัวที่สมาชิกทุกคนมีความผูกพันกับท้องทะเล และคุ้นเคยกับการรับประทานอาหารจากสินทรัพย์แห่งสายน้ำมาแต่วัยเยาว์
ชมสินธุ์ แปลว่าการมองดูสายน้ำ ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของห้องอาหารไทยแห่งใหม่ที่ต้องการชูคุณค่าวัตถุดิบแห่งน่านน้ำไทย พร้อมนำเสนอสูตรอาหารไทยต้นตำรับให้ผู้ที่รักอาหารไทยได้รับประทานอย่างหลากหลาย แสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรม ความรุ่มรวยของอาหารทะเล และปลาแม่น้ำในฤดูกาลต่าง ๆ รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการสอดประสานของความร่วมสมัยที่จะส่งต่อคุณค่านี้จากรุ่นสู่รุ่น คอนเซ็ปต์ดี ๆ แบบนี้ Sineha Bangkok สนับสนุนเต็มที่
Sineha Bangkok ชอบ Moon and Tone ของการออกแบบห้องอาหาร ชมสินธุ์ มาก โทนสีที่เลือกใช้ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ สีคราม สีเขียวเทอร์ควอยซ์ และสีน้ำตาล ที่ดีไซน์มีความเป็นไทย และไม่เชย เน้นใช้วัสดุจากไม้และดินเผา ทันสมัยแต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคก่อน ในขณะที่ผู้ออกแบบยังคงใช้ลวดลายไทยที่เราคุ้นตามาสร้างความรู้สึกให้นึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวภายในบ้าน ให้บรรยากาศเหมือนมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัวเลย
เมนูอาหารของ ชมสินธุ์ เป็นเมนูอาหารไทยที่หารับประทานได้ยากในทุกวันนี้ และกำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ โดยได้เชฟ ประวีณ ดีลี เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงผู้มารับหน้าที่เป็นผู้นำในครัว เป็นเชฟรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่ความหลงใหลในอาหารไทย แต่ยังมีทักษะและความรู้โดยเฉพาะในเรื่องสมุนไพร เครื่องเทศ และความเผ็ดร้อนในอาหารไทยที่มีมิติและตัวแปรอันแตกต่างกันออกไป และเน้นที่จะอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศทางอาหารอย่างยั่งยืน วัตถุดิบหลักที่เป็นตัวชูโรงคืออาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ อาทิ ล็อบสเตอร์จากภูเก็ต ปูจาก ประจวบคิรีขันธ์ และกุ้งแม่น้ำจากอยุธยา เป็นต้น
- ชมสินธุ์ ยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับกระบวนการในห้องครัวซึ่งเชฟประวีณจะใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้ก้างปลามาทำน้ำสต็อก หรือทำผงปรุงรสจากเปลือกกุ้ง ตรงกับหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์
ตาม Sineha Bangkok มาดูเมนูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ และได้ลองมาฝากกันค่า
คำแรกเป็น อามูซ–บุช (Amuse-bouche) ซึ่งน่าจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน Sineha Bangkok ได้คำนี้เป็นชิ้นส้ม ที่ผ่าแล้วใส่ไส้ที่เหมือน ไส้ข้าวเกรียบปาหม้อ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ แต่พอลองแล้ว อร่อยเลย เข้ากันได้ดีด้วย เนื้อส้มกับไส้ที่ใส่มา
ยำมะเขือยาวปลาสลิด 250 บาท เชฟทอดปลาได้กรอบมากของปลาสลิดทอด ทานคู่กันกับมะเขือยาวเนื้อนุ่มในน้ำยำรสชาติจัดจ้าน เข้ากันดี ในขณะที่ปลาก็ยังกรอบ
ปลาหมึกผัดซอสดำ 420 บาท จานนี้เป็นการตอกย้ำความสดของอาหารทะเลให้เลย ปลาหมึกสด แบบไม่มีกลิ่นเลย แต่กรรมวิธีการปรุงของเชฟคือ ปรุงออกมาแล้วเนื้อปลาหมึกนุ่ม ผัดได้ซอสเข้าเนื้อปลาหมึก รสชาติกลมกล่อมถูกใจ Sineha Bangkok เลยค่ะ
ข้าวต้มชมสินธุ์ 350 บาท เมนูซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาดค่ะ อารมณ์เหมือนข้าวต้มทะเล น้ำซุบกลมกล่อมชนะเลิศมาก ซีฟู๊ดสดอร่อย ปกติ Sineha Bangkok ไม่ค่อยเจอข้าวต้มทะเลอร่อย เพราะหลาย ๆ ที่มักจะใส่พริกไทยจัด ๆ เพื่อกลบกลิ่นคาว แต่ที่นี่ใช้ของสดตัดปัญหาเรื่องกลิ่นคาวไปเลย เคล็ดลับง่าย ๆ ที่เชฟใส่ใจ แนะนำเลยค่า
นารีกรรแสง 590 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโบราณที่ควรได้ลิ้มลอง ที่ว่ากันว่า เป็นเมนูต้นกำเนิดของผัดกะเพราะเรานี่เอง เมนูนี้ใช้กุ้งทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก และไซส์ใหญ่ทีเดียวนะคะ เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยสามเกลอ พริกแห้ง ใบกะเพรา กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งห้องอาหาร ชมสินธุ์ เลือกใช้ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำค่า
ผัดไทยไชยากุ้งแม่น้ำ 290 บาท ให้เป็นเมนูผัดไทยที่อร่อย แบบใครถามหาผัดไทยเจ้าอร่อย แนะนำที่นี่ได้เลยค่ะ ผัดไทยที่นี่ทานได้สองรสชาติ เพราะเชฟจะให้ซอสสูตรพิเศษของเชฟมาด้วย ซึ่งเราสามารถทานแบบที่เสิร์ฟมาก่อน แล้วลองใส่ซอสคลุกเคล้าก็จะได้อีกรสชาติ อร่อยทั้งสองแบบ ใส่ซอสก็จะเพิ่มรสชาติเผ็ดขึ้นมาอีก
ส้มฉุน 190 บาท เมนูของหวานตั้งแต่ครั้งโบราณที่จะสร้างความเย็นชื่นใจในทุกคำ เครื่องแน่น รสชาติดี เรียกว่าทำถึงค่ะ แนะนำให้สั่งเลย
เกือบลืมบอกไปเลย! Sineha Bangkok ชอบกิมมิกของ ชมสินธุ์ ตรงที่พนักงานมาเสิร์ฟนำจิ้มซ๊ฟู๊ดแบบปรุงสดหน้าโต๊ะเลย เพราะฉะนั้นเราก็จะสามารถบอกได้ว่า ขอเผ็ดน้อย เผ็ดมาก หรือไม่เผ็ดเลยก็ได้เช่นกัน ยังไม่ต้องเชื่อทั้งหมด แวะมาพิสูจน์กันเองได้ที่ ห้องอาหาร ชมสินธุ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 โรงแรมอมารี กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 น. – 23:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองโต๊ะ โทร: +66 2653 9000